ฟุตบอล “รีโว่ ไทยลีก” ฟาดแข้งกันอย่างเมามันในนัดเปิดสนามเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายสโมสรส่งผู้เล่นหน้าใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติอิมพอร์ต ลงประเดิมสัมผัสบรรยากาศลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกทันที เราไปเช็กฟอร์มนักเตะโควตาต่างชาติและโควตาเอเชียหน้าใหม่ทั้ง 16 คนกันว่า แต่ละคนมีความโดดเด่นหรือมีแววว่าจะดับอย่างไรกันบ้าง
นัมเบอร์วัน
แฮมิลตัน โซอาเรส
กองหน้าบราซิลของหนองบัว พิชญ เอฟซี แจ้งเกิดได้ตั้งแต่นัดแรกของไทยลีก หลังเป็นฮีโร่เหมาคนเดียว 2 ประตูช่วย “พญาไก่ชน” จิก “สวาทแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี จนขนหลุด 2-0
แฮมิลตันเป็นกองหน้าร่างโย่ง สูง 191 เซนติเมตร เพิ่งย้ายมาจากคาซมา เอสซี ในลีกคูเวตแบบไม่มีค่าตัว จุดเด่นคือจังหวะโขกทำประตู การครองบอล แถมมีความคล่องตัว แม้สูงแต่ยังกระชากลากเลื้อยได้ เห็นได้จาก 2 ประตูที่ดาวเตะวัย 30 ปียิงใส่โคราช ลูกแรกใช้ความสูงให้เป็นประโยชน์ แค่ยืนก็สูงกว่าโกลกระโดดแล้ว ส่วนอีกประตูแฮมิลตันใช้สัญชาตญาณพุ่งเข้าชาร์จ มองเผินๆ ทั้งรูปร่าง และสไตล์คล้าย โดมินิค คัลเวิร์ต-เลวิน กองหน้าทีมชาติอังกฤษของเอฟเวอร์ตัน
โดยแฮมิลตันจะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ “พญาไก่ชน” เอาตัวรอดไปได้ในไทยลีกปีแรก
นัมเบอร์ทู
ลิดอร์ โคเฮน
เพลย์เมกเกอร์วัย 28 ปี ที่ย้ายมาจากฮาโปเอล เทล อาวีฟในลีกอิสราเอล และเคยติดทีมชาติชุด 21 ปีมาแล้ว สไตล์การเล่นเป็นตัวปั้นเกมขนาดแท้ เทคนิคยอดเยี่ยม เอาตัวรอดในที่แคบๆ ได้สบาย คลึงบอล เลี้ยงหลบ หมุนตัว เรียกเสียงฮือฮาทั้งสนาม เล่นได้ทั้งปีกซ้าย ตรงกลาง และด้านขวา ทำไปแล้ว 1 แอสซิสต์ให้กับทีมหนองบัว พิชญ ลีลาคล้าย ริคาร์โด กาก้า อดีตทีมชาติบราซิล
โคเฮนจะเป็นอีกหนึ่งสตาร์ไทยลีกซีซั่นนี้ หากยังรักษาฟอร์มแบบเดียวกับนัดประเดิมได้
ยังต้องพิสูจน์
ควาเม คาริคารี
กองหน้าดีกรีทีมชาติชุด 20 ปีของกานา ย้ายมาจากเอฟเค ตูรอน ในลีกอุซเบกิสถาน พร้อมเป็นความหวังของทีมนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี หลังจากการขาดหายไปของ เดนนิส มูริลโล
แต่กับเกมแรกที่เขาอยู่ในสนามครบ 90 นาทีในการพบกับทีมน้องใหม่ หนองบัว พิชญ เอฟซี กลับทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าใดนัก เก็บบอลไม่ได้ กระชากไม่ออก ยิงไม่เข้า จนทำให้ทีมแพ้พลิกล็อกในเกมดาร์บี้แมตช์แห่งภาคอีสาน
อย่างไรก็ตามยังถือเป็นเกมแรกในลีกสูงสุดเมืองไทยที่อาจต้องใช้เวลาปรับตัวอีกสักระยะ อย่าเพิ่งไปตัดสินว่า หัวหอกวัย 29 ปีรายนี้จะไม่ส่องแสงได้ในตัวเอง
ไดสุเกะ ซากาอิ
แนวรุกวัย 24 ปี เคยติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดอายุไม่เกิน 20 ปีมาแล้ว ย้ายมาจากโออิตะ ทรินิตะ จากการชักชวนของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือมากฝีมือของสมุทรปราการ ซิตี้ แต่เกมแรกยังเล่นไม่ออก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะยังไม่คุ้นชินกับไทยลีก และการยืนในตำแหน่งที่ไม่ถนัดนัก เนื่องจากสมัยอยู่ญี่ปุ่น เล่นมิดฟิลด์ตัวกลางและปีกขวา แต่เกมประเดิมกับเขี้ยวสมุทร ต้องไปยืนทางซ้าย
เรบิน ซูลากา
กองหลังทีมชาติอิรัก สัญชาติสวีเดนย้ายมาจากเลฟสกี โซเฟีย ในลีกบัลแกเรีย กินโควตาเอเชียหนึ่งเดียวของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นกองหลังสไตล์สูงใหญ่ สูงถึง 193 เซนติเมตร ดึงเข้ามาเพื่อหมายจะแพ็กเกมรับให้เหนียวเหมือนยุคก่อน ออกบอลสวยๆ ได้เหมือนช่วงที่มี อันเดรส ตูเญซ นำทัพ แต่นัดแรกกับการประเดิมสนามไทยลีก เพียงแค่ 30 นาที ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่า แนวรับวัย 29 ปีจะได้ไปต่อกับทีมนานกว่านี้หรือไม่
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมี เซบาสเตียน วูธริช กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ชุด 21 ปีของราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่เคยค้าแข้งกับมงต์เปลลิเยร์ในลีกฝรั่งเศส, มาร์โค ซาฮาเน็ค เพลย์เมกเกอร์ออสเตรียของนครราชสีมา วัย 31 ปี และ ควาเบนา อัปเปียห์-คูบี แนวรุกร่วมสังกัดสวาทแคท, ยาเซียร์ อิสลามี ปินโต้ แนวรุกอดีตตัวทีมชาติชิลี ปัจจุบันเป็นนักเตะทีมชาติปาเลสไตน์ และมาเล่นให้กับขอนแก่น ยูไนเต็ด
รวมถึง แอนโธนี คาร์เตอร์ กองหน้าร่างโย่งชาวออสเตรเลีย ของสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด, สองผู้เล่นหน้าใหม่ของสุพรรณบุรี เอฟซี ที่ค่อนข้างจะโนเนม คือ ดิเอโก เฟอร์นานโด โลเรนซี และ ดานิโล อัลเมดา อัลเวส, แอร์ตอน และ มาฮาน ราห์มานี สองผู้เล่นหนองบัว, ยาง จุน อา อดีตแนวรับชุด 20 ทีมชาติเกาหลีใต้ของโปลิศ เทโร และ เซร์คิโอ เอสคูเดโร กองกลางเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ทั้งหมดยังคงต้องพิสูจน์ด้วยการให้ลงเล่นไปอีกสักระยะ 5-10 นัด เพื่อเห็นฝีเท้าชัดๆ ซึ่งหากใครหวังจะไปต่อ ก็ต้องสร้างความแตกต่าง เปลี่ยนแปลงเกมให้ได้
หากยังเล่นไม่ออก เพียงแค่ครึ่งฤดูกาล นักเตะบางรายอาจต้องอำลาไทยลีกไป เหมือนกับในอดีตที่หลายแข้งชื่อดัง ดีกรีสูง แต่มาเล่นจริงๆ แล้ว “สภาพ” ไม่ผ่าน
