Link Copied!

มาดามแป้ง ผนึกกำลังทัพช้างศึก U-23

ภายหลังการเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ และให้สัมภาษณ์ไว้ว่าขอเวลา 2 วันจะแต่งตั้งโค้ช ต่อมาสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยก็ประกาศแต่งตั้ง โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน และโค้ชโชค โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ซึ่งกลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา

“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ให้เหตุผลในการเลือกโค้ชโย่งและโค้ชโชคเข้ามาทำหน้าที่ครั้งนี้ว่า ทั้งสองคนเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ความเข้าใจในระบบของทีมชาติไทย และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์มาแล้วมากมาย จึงคิดว่าจะประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอน ส่วนด้านโค้ชโย่งก็ให้สัมภาษณ์อีกด้วยว่า ยอมรับว่ากดดันกับการมารับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนอีกครั้ง เพราะว่าเป้าหมายที่คุยกับที่ประชุมคือการต้องเข้ารอบในอันดับที่ 1 หรือที่ 2 ของสายที่ดีที่สุด

เราต่างรู้กันดีว่าโค้ชโย่งมีประสบการณ์คุมทีมมาแล้วมากมาย เรียกได้ว่าประสบการณ์ขนมาเต็มกระเป๋า ขณะที่โค้ชโชคก็ผ่านการคุมทีมมาแล้วมากมายเช่นกัน ทั้งยังเคยคุมทีมการท่าเรือ เอฟซี ของมาดามแป้งและคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ อีกด้วย ทั้งดีกรีและความพร้อมของทั้งสองคนนั้นถือเป็นเรื่องเหมาะสมแล้วกับการเข้ามารับหน้าที่ครั้งนี้ แต่อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ อำนาจในการตัดสินใจของมาดามแป้งที่มีมากขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกหรือการแต่งตั้งโค้ช และการดำเนินการตามเป้าหมายที่สมาคมฟุตบอลวางเอาไว้  

กรณีที่โค้ชโย่ง วรวุธ ศรีมะฆะ กลับเข้ามารับหน้าที่ครั้งนี้นั้นถือว่าเซอร์ไพรส์แฟนบอลไทยเป็นอย่างมาก เพราะไม่กี่วันก่อนผมได้ฟังสัมภาษณ์ของเขา กับเรื่องที่ว่าใครจะมาเป็นโค้ชช้างศึกคนต่อไป ซึ่งโค้ชโย่งก็บอกว่าใครก็ได้ตอนนี้ และเขาก็ไม่รู้ว่าสมาคมฯ จะเลือกเขาหรือเปล่า ทั้งบอกว่าการเข้ามารับหน้าที่นี้เป็นเรื่องที่เขาลำบากใจ และก็ดูทีท่าว่าโค้ชโย่งจะไม่รู้เรื่องเลยว่าจะได้รับหน้าที่นี้อีกครั้ง อีกอย่างคือก่อนหน้านี้ที่โค้ชโย่งเคยคุมทีม U-23 ก็ดูจะเหมือนว่าทำผลงานไม่ได้ดีสักเท่าไร และก็โดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร

หลายๆ คนบอกว่ายากมากที่โค้ชโย่งจะกลับมา แต่หลังจากมาดามแป้งรับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย เธอสามารถดึงโค้ชโย่งกลับมาได้ แถมยังดึงโค้ชโชค โชคทวี พรหมรัตน์ กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งได้ ซึ่งเราก็ต้องยอมรับว่ามาดามแป้งเป็นคนที่มีพาวเวอร์ และเป็นนักธุรกิจที่สามารถเจรจาเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย

กลับมาที่เรื่องของผลงานโค้ชโย่งก่อนหน้าที่ค่อนข้างจะทำได้ไม่ดีนักนั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับแฟนบอลครับ แต่ผมกลับมองอีกมุมหนึ่งคือ อะไรอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนเดิมก็ได้ การได้มาดามแป้งเข้ามาหนุนหลังนั้นอาจทำให้โค้ชโย่งทำงานง่ายมากขึ้น อีกทั้งนักเตะ U-23 ชุดนี้ก็ดูจะเป็นวัตถุดิบที่ดีกว่าครั้งก่อนๆ ร่วมกับอีกหลายๆ องค์ประกอบ ทั้งการได้โค้ชโชคเข้ามาช่วยอีกแรง ทั้งระบบการจัดการที่มีมาดามแป้งช่วยแก้ปัญหา ก็หวังว่ามันจะเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น

สำหรับการเข้ามาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ผมมองว่ามันคือการวัดใจ การตัดสินใจและการบริหารทีมอยู่ในมือมาดามแป้งแล้วตอนนี้ เรียกได้ว่ามันเป็นเรื่องที่เสี่ยงสุดๆ เพราะในวงการฟุตบอลแล้วไม่มีอะไรจะเหนือไปกว่าเรื่องผลงาน หากมาดามแป้งทำสำเร็จจริงๆ ทุกคนอาจจะยกย่อง แต่ถ้าพลาด ตำแหน่งผู้จัดการทีมก็อาจจะสั่นคลอน ดังนั้นคนที่เข้ามายืนจุดนี้ต้องแข็งแกร่ง ซึ่งที่ผ่านมาหลายๆ ครั้งที่มาดามแป้งทำงานเกี่ยวข้องกับฟุตบอลไทย ไม่ว่าจะเป็นทีมชาติไทย และทีมการท่าเรือ เอฟซี ทั้งเรื่องการตัดสินใจ การเจรจา การออกหน้าเพื่อแก้ปัญหา ก็ทำให้เราได้รู้มาดามแป้งนั้นแกร่งจริงๆ

สุดท้ายแล้วเราต้องมาลุ้นกันว่าผลงานของฟุตบอลชายทีมชาติไทยจะออกมาอย่างไร ส่วนตัวผมอยากให้มันออกมาในทางที่ดีและประสบผลสำเร็จจริงๆ และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นโอกาสสำคัญ อะไรก็เกิดขึ้นได้ครับ ไม่แน่เราอาจจะได้เห็นเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่อีกก็เป็นไปได้ หากดูจากฝีมือในการต่อรองของมาดามแป้งที่สามารถดึงโค้ชโย่งและโค้ชโชคกลับมา ผมว่าการแต่งตั้งโค้ชทีมชาติชุดใหญ่นั้น หากมาดามแป้งจะดึงตัวอดีตโค้ชทีมชาติไทยอย่าง โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เข้ามารับหน้าที่อีกครั้งมันก็ดูเป็นเรื่องที่เป็นไปได้

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares