เรื่องนักเตะโอนสัญชาติถือเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน เหตุใดทีมชาติไทยไม่ยอมให้มีนักเตะโอนสัญชาติเสียที แม้ปัจจุบันจะมีนักเตะลูกครึ่งเข้ามาบ้างก็ตาม แต่ก็ยังต้องมีสายเลือดไทย จะเห็นได้ว่าเมื่อมีข่าวนักเตะลูกครึ่งฝีเท้าดีหรือสังกัดสโมสรที่มีดีกรีหน่อย แฟนบอลไทยจะรู้สึกตื่นเต้นและเห็นว่านั่นเป็นความหวังของทัพช้างศึก แต่กับเรื่องนักเตะโอนสัญชาติยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนถกเถียงกันอยู่อย่างไม่มีบทสรุป
แน่นอนว่าประเด็นเรื่องนักเตะโอนสัญชาติเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะแฟนบอลยังมีความคิดที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว หลายคนเห็นด้วยว่าถึงเวลาแล้วต้องมีนักเตะโอนสัญชาติ ขณะที่อีกฝั่งก็ยืนหยัดว่านักเตะทีมชาติไทยต้องเป็นคนไทยเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อทีมชาติไทยไม่ประสบความสำเร็จเสียที เราควรต้องหันมามองเรื่องของนักเตะโอนสัญชาติจริงๆ จังๆ หรือไม่ เผื่อจะเป็นหนทางสู่ฟุตบอลโลกอย่างที่หลายๆ คนฝันไว้
หลายๆ คนคงพอจะรับรู้เรื่องนักเตะโอนสัญชาติมาบ้าง เพราะประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างมาเลเซียก็มีนักเตะโอนสัญชาติอยู่หลายคน และเพิ่งมีกระแสข่าวเกี่ยวกับ เกลเญเม่ เด เพาลา หัวหอกชาวบราซิลวัยย่าง 35 ปี ที่โอนสัญชาติมาเล่นให้ทีมชาติมาเลเซียในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งถูกมองว่ามีอายุมากไป แต่เจ้าตัวก็ออกมาบอกว่าเรื่องอายุสำหรับเขาเป็นเพียงตัวเลข มันอยู่ที่สภาพร่างกายมากกว่า หรือจะเป็นนักเตะโอนสัญชาติของทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์หรือยูเออี ที่ไทยเจอพิษสงทำร้ายมานับครั้งไม่ถ้วน แถมมีนักเตะโอนสัญชาติมาใหม่สดๆ ร้อนๆ ในปี 2020 อย่าง เซบาสเตียน ตาเกียวโบ กองหน้าจอมเก๋าชาวอาร์เจนตินา วัย 36 ปี ฟาบิโอ ลิมา แนวรุกชาวบราซิล วัย 27 ปี และ ไคโอ คาเนโด ปีกซ้ายชาวบราซิล วัย 30 ปี เรียกได้ว่าทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นอีกประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
หลังจบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกที่ไทยตกรอบมาด้วยผลงานไม่ค่อยจะดีนัก ทำให้กระแสโอนสัญชาติกลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง และอีกคนที่มีเอี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือกองหลังกัปตันทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ ที่มีแฟนบอลท่านหนึ่งถามว่า มาเล่นให้กับทีมชาติไทยได้ไหม และคาร์โดโซตอบว่า ทำไมจะไม่ได้ล่ะ แถมล่าสุดเจ้าตัวได้แท็กขอบคุณเพจช้างศึกและมีประโยคทิ้งท้ายว่า “ขอพาสปอร์ตหน่อยค้าบ” เรียกได้ว่ากองหลังบีจีรายนี้ได้ใจแฟนบอลทัพช้างศึกไปแล้วหลายคน เพราะดูแล้วเขาเป็นนักเตะต่างชาติคนเดียวที่พูดว่าพร้อมจะเล่นให้ทัพช้างศึก การที่จะได้สัญชาติไทยนั้นมีเงื่อนไขต้องทำงานในไทยอย่างน้อย 5 ปี และต้องได้เงินเดือนอย่างน้อย 80,000 บาท ซึ่ง วิคเตอร์ คาร์โดโซ ก็ดูจะผ่านฉลุยในเรื่องนี้ แต่ก็นั่นแหละครับอย่างที่บอกว่านักเตะโอนสัญชาติเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะยังมีหลายคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่ถ้าเราลองจินตนาการว่าได้ วิคเตอร์ คาร์โดโซ หรือนักเตะต่างชาติในไทยลีกหลายๆ คนใส่เสื้อทัพช้างศึก มันอาจจะทำให้ฝันของหลายคนเป็นจริงก็ได้
เหตุผลที่เราหยิบเรื่องนี้มาพูดถึงไม่ได้แนะว่าประเทศไทยควรมีนักเตะโอนสัญชาติได้แล้ว แต่อยากเล่าถึงการโอนสัญชาติในวงการฟุตบอล และอยากชวนแฟนบอลมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าการตัดสินใจนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากแฟนบอลคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนสามารถเป็นกระบอกเสียงให้วงการฟุตบอลบ้านเราดีขึ้นได้ หลายคนคงคิดว่าการมีนักเตะโอนสัญชาติมาก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่การันตีความสำเร็จให้กับทัพช้างศึก ซึ่งอาจจะจริง แต่ขณะเดียวกันการโอนสัญชาติก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการฟุตบอลทั่วโลก เพียงแค่เสิร์ชกูเกิล เราก็รู้ได้แล้ว
สุดท้ายนี้ฟุตบอลทีมชาติไทยจะไปในทิศทางไหน คงต้องรอดูกันว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง การที่เราจะพัฒนาเด็กไทยให้เทียบเท่าเด็กต่างชาติก็เป็นเรื่องดีและควรจะทำเป็นอันดับแรก ส่วนการมีนักเตะโอนสัญชาติอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุด แต่ก็คงจะดีไม่น้อยที่ได้เห็นนักเตะต่างชาติที่เราคุ้นเคยเล่นให้ทัพช้างศึก และมันอาจจุดประกายแห่งความหวังให้แฟนบอลไทยได้บ้างแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม แล้วคุณล่ะ คิดว่าถึงเวลาหรือยังที่ฟุตบอลทีมชาติไทยต้องมีนักเตะโอนสัญชาติ?
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
