ทำไมนักฟุตบอลพันธุ์ดุ สไตล์ฮาร์ดแมนถึงค่อยๆหายไปจากวงการฟุตบอลในปัจจุบัน
ทั้ง วินนี โจนส์, ดันแคน เฟอร์กูสัน, รอย คีน, ปาทริค วิเอรา, จูเลียน ดิกส์, นีล รัดด็อค และ เดวิด บัตตี มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน พวกเขาทั้งหมดเป็นนักฟุตบอลลแบบฮาร์ดแมน (นักฟุตบอลพันธุ์ดุ | Hard Man) เสียบหนัก ดุดัน ก้าวร้าวทั้งในและนอกสนาม คู่ต่อสู้ขยาดไม่กล้าเข้าใกล้ เห็นใบเหลืองใบแดงเป็นของเล่น เกมไหนไม่ถูกผู้ตัดสินว่ากล่าวตักเตือนถือว่าเล่นไม่ได้มาตรฐาน แต่ทุกวันนี้นักฟุตบอลแบบฮาร์ดแมนกำลังค่อยๆ หายสาบสูญด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง
บางคนเกลียด บางคนรัก และบางคนเลือกไม่ได้ว่าจะชอบหรือไม่แคร์บรรดาเหล่านักฟุตบอลฮาร์ดแมน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาเหล่านั้นคือสีสันที่ขาดหายไปในเกมฟุตบอลสมัยใหม่ มันต้องใช้ทั้งแรงกายและแรงใจในการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นฮาร์ดแมน เพราะนอกจากจะเล่นฟุตบอลได้ดีในระดับหนึ่งแล้ว ยังต้องไม่กลัวการปะทะ ไม่แยแสกับเสียงก่นด่าจากแฟนบอลทั่วทั้งสนาม แรกเริ่มเดิมทีนั้นฟุตบอลเป็นกีฬาของการปะทะ ผู้เล่นนับสิบคนวิ่งเข้าหาบอลพร้อมๆ กัน ฮาร์ดแมนก็เกิดจากตอนนั้น คนที่วิ่งเสียบสกัดเพื่อแย่งบอลมาจากเท้าของคู่ต่อสู้
นับตั้งแต่ยุค 1960 นักฟุตบอลอังกฤษต้องแข็งแกร่ง ไม่กลัวการปะทะ ตรงไหนเสี่ยงเจ็บตัวต้องเอาตัวเองไปอยู่ตรงนั้น เป็นแรงขับดันให้ทีมก้าวขึ้นไปข้างหน้า แต่เมื่อฟุตบอลมีวิวัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ ทักษะการเล่นฟุตบอล ระบบการเล่นที่พัฒนาขึ้น นักฟุตบอลแบบฮาร์ดแมนดูจะถูกมองว่าด้อยค่าลงเรื่อยๆ จุดเปลี่ยนสำคัญคือในยุค 1980 ไม่กี่ปีก่อนที่จะเกิดพรีเมียร์ลีก
ในตอนนั้นระบบการเล่นและสไตล์การเล่นมีบทบาทสำคัญในการพาทีมไปสู่ความสำเร็จ นักฟุตบอลต่างชาติมากพรสวรรค์และเปี่ยมทักษะเริ่มตบเท้าเข้าสู่ลีกอังกฤษมากขึ้น ผู้จัดการทีมมุ่งเน้นไปที่การครอบครองบอล ป้องกันแบบทีม และไม่หวังพึ่งการปะทะแบบอยู่หรือตายที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม
จากที่ฟุตบอลเคยเล่นแบบเตะแล้ววิ่ง กลายมาเป็นผ่านบอลและเคลื่อนที่ การโยนบอลไปข้างหน้าแบบ Hit and Hope ที่ทำให้การปะทะกันกลางอากาศระหว่างกองหน้าและกองหลังเริ่มน้อยลง เมื่อพรีเมียร์ลีกเกิดขึ้นในปี 1992 โฉมหน้าของฟุตบอลและวิธีการเล่นก็ยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ ด้วยเม็ดเงินมหาศาล และสื่อแขนงต่างๆ เข้ามามีบทบาทถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสนาม ฟุตบอลกลายเป็นเรื่องของทักษะ พฤติกรรมแบบไหนที่รับได้หรือรับไม่ได้ในสนาม มีสายตาของกล้องหลายสิบตัวจับภาพสิ่งที่เกิดตลอด 90 นาที เลยเถิดไปถึงในอุโมงค์เข้าสู่สนาม การเล่นตุกติกหาทางหลบเลี่ยงได้ยากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้เล่นที่เน้นการใช้กำลังดูจะกลายเป็นส่วนเกินในฟุตบอลสมัยใหม่ เกมฟุตบอลที่เร็วขึ้น เน้นทักษะของนักฟุตบอลมากกกว่าพละกำลัง การเสียบสกัดที่รุนแรงทำให้ทีมเสียเปรียบเมื่อถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม เดิมพันของการเล่นฟุตบอลหนึ่งเกมนั้นสูงมากกว่าแต่ก่อน นักฟุตบอลถูกกฎกติกาและมารยาทเข้าครอบงำมากขึ้น เล่นแรงเกินไปก็เสี่ยงถูกแบน ถูกสโมสรปรับเงิน และผลกระทบอีกมากมายทางโซเชียลมีเดีย
ลองคิดดูเล่นๆ ว่าถ้าหากนักบอลอย่าง วินนี โจนส์ แสดงพฤติกรรมแบบที่เขาทำในสนามในตอนนี้ หัวหน้าของเดอะเครซี่ แก๊ง คงโดนใบแดงไม่เว้นแต่ละนัด คงยังจำกันได้กับจังหวะจับเป้า พอล แกสคอยน์ แต่เชื่อหรือเปล่าว่า ใน 177 เกมที่ วินนี โจนส์ ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกให้วิมเบิลดันระหว่างปี 1992-1998 เขาได้ใบเหลืองแค่ 36 ใบ และใบแดงแค่ 7 ใบเท่านั้น ฟุตบอลสมัยก่อนมีน้ำอดน้ำทนต่อบรรดาฮาร์ดแมนมากกว่าตอนนี้
ในรายการ Match of the day ทางบีบีซี ไมกา ริชาร์ด และ อลัน เชียเรอร์ มานั่งจัดอันดับบรรดาฮาร์ดแมนในพรีเมียร์ลีก ซึ่งทั้งคู่เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าสุดยอดคนโหดที่เคยเล่นในพรีเมียร์ลีกคือ ดันแคน เฟอร์กูสัน ตำนานกองหน้าของเอฟเวอร์ตัน เจ้าของสถิติ 8 ใบแดงและ 40 ใบเหลือง ไมกา ริชาร์ด ให้เหตุผลที่เขาเลือกเฟอร์กูสันว่า “จากที่เห็นในวิดีโอและขนาดตัวของเขา ยาป สตัม หลบไป รอย คีน หลีกทาง เขาต้องเป็นเบอร์หนึ่ง เขามีสายตาที่คุณไม่อยากจะเข้าไปยุ่งด้วย”
ส่วน อลัน เชียเรอร์ ก็บอกว่า “ผมเคยเล่นตรงข้ามเขา และเคยเล่นร่วมกันกับเขา คุณจะรู้เมื่อใครสักคนมีรังสีแผ่ออกมา คุณจะรู้เมื่อเขาเดินมา ขนาดของร่างกาย เขามีชื่อเสียงด้านนี้ และก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ถ้าคุณฆ่าใครด้วยสายตาได้ เฟอร์กูสันฆ่าคุณได้ด้วยสายตาง่ายๆ คุณเห็นได้ถึงความกลัวในสายตาของกองหลังตั้งแต่เดินออกจากอุโมงค์ กองหลังหลายคนกลัวที่จะต้องสู้กับเขา เขาแทคเกิลหนัก และสุดยอดในลูกกลางอากาศ แถมยังเป็นสุดยอดผู้เล่น ยิงประตูเหลือเชื่อจากลูกฮาล์ฟวอลเลย์ใส่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาไม่กลัวใครหรืออะไรเลย”
ทุกวันนี้ฮาร์ดแมนในฟุตบอลกำลังเหลือน้อยลงเรื่อยๆ แต่ใช่ว่าไม่มีเลย ซึ่งนักฟุตบอลที่ได้ชื่อว่าเป็นฮาร์ดแมนในยุคนี้คงจะหนีไม่พ้น เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีมเรอัล มาดริด เจ้าของสถิติใบแดงมากที่สุดในเอล กลาซิโก, ของเรอัล มาดริด, ของลาลีกา, ของยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก และของผู้เล่นทีมชาติสเปน ด้วยจำนวนใบแดงทั้งสิ้น 26 ใบ ในฐานะหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลก ขณะเดียวกันรามอสก็เป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืด เรียกว่ามีกลยุทธ์สกปรกอะไร รามอสควักออกมาใช้ครบทั้งหมด ไม่กลัวเจ็บ ไม่กลัวเลือดตกยางออก
ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้น การมี VAR อยู่ในสนาม อาจจะเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลง ไม่ให้มีพื้นที่ของฮาร์ดแมนในสนามฟุตบอล อีกหนึ่งเสน่ห์ของฟุตบอลกำลังหายไป จนเราอดคิดไม่ได้ว่าบางทีเทคโนโลยีกำลังทำให้ฟุตบอลน่าเบื่อและน่าหงุดหงิดขึ้น ไม่เชื่อลองดูจังหวะล้ำหน้าของ ดิโอโก โชตา ในเกมลิเวอร์พูลพบกับแอสตัน วิลลา ดูได้
เขียนเรื่องฮาร์ดแมน แต่ไหงมาจบที่การจับล้ำหน้าของ VAR ไปได้
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม