Link Copied!
1917

1917 – คุณวิ่งเพื่อใคร

บทความแทนคำขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ซึ่งวิ่งเพื่อชีวิตคนอื่น

ในอดีตกาลทหารนามเฟดิปพิดีสวิ่งทางไกลส่งข่าวสารการรบเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและชาวกรีก แม้เขาจะต้องแลกด้วยชีวิตตนเองก็ตาม จากนั้นจึงกลายเป็นจุดกำเนิดของการวิ่งมาราธอน

ในปีที่ผ่านมา มีภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับการวิ่งส่งข่าวสารในสนามรบสงครามโลกครั้งที่ 1 เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในสงครามระหว่างกรีกกับเปอร์เซีย ภาพยนตร์เรื่องนั้นมีชื่อว่า 1917

หนังที่ตัวเอกวิ่งกันทั้งเรื่อง เริ่มต้นจากการวิ่งร่วมกับเพื่อนทั้งที่ไม่เต็มใจและไม่เข้าใจเพื่อนซึ่งต้องวิ่งไปส่งข่าวสำคัญเกี่ยวกับยุทธวิธีเพื่อช่วยรักษาชีวิตพี่ชายที่อยู่แนวหน้า ทั้งๆ ที่เป็นการก้าวเข้าไปในกับดักของศัตรู เห็นๆ กันอยู่ว่าต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง

1917

ตัวเอกของเรื่อง สคอฟิลด์ ทหารผู้กำลังจะได้พักรบ ถามเบลค-เพื่อนสนิท ว่าทำไมถึงเลือกเขามาร่วมภารกิจเสี่ยงตายนี้ และได้รับคำตอบว่า ก็ไม่รู้ว่าภารกิจมันจะเสี่ยงชีวิตขนาดนี้ แต่เบลคก็บอกสคอฟิลด์หลายครั้งว่าไม่ต้องมากับเขาก็ได้ ตัวหนังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนสองคนนี้มากนัก แต่สื่อให้ทราบโดยนัยเกี่ยวกับความเชื่อใจและความเชื่อมั่นที่เบลคมีต่อสคอฟิลด์ และเมื่อเขาต้องเลือกคนมาร่วมภารกิจหนึ่งคน สคอฟิลด์อยู่ในความคิดลำดับต้นของเขาเสมอ

ทั้งสองคนยอมทำภารกิจทั้งที่มีสิทธิ์ได้พักรบและกลับบ้านเกิดชั่วคราว ทว่าความรู้สึกของทหารสองนายนั้นไม่เหมือนกันเสียทีเดียว คนหนึ่งอยากกลับใจจะขาดเพราะมีครอบครัวที่รักรออยู่ อีกคนหนึ่งกลับลังเล เพราะกลัวความเจ็บปวดว่าหากได้กลับไปเจอคนที่รักแล้วต้องจากมาอีก สู้ไม่กลับไปเลยจะดีเสียกว่า

1917

ทั้งสองคนร่วมวิ่งในเส้นทางเดียวกันแต่ด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน เบลคนั้นมุ่งมั่นจะไปให้ถึงแนวรบเพื่อรักษาชีวิตพี่ชาย ในขณะที่ความรู้สึกของสคอฟิลด์นั้นสับสนไม่ชัดเจน ระหว่างทางที่วิ่งกันมา ทั้งสองคนได้ทราบข่าวว่าศัตรูถูกตีร่นถอยไปไกลมากแล้ว แนวหน้าการรบอาจกำลังคลี่คลาย ซึ่งถ้าพวกเขาหันหลังเดินกลับก็จะปลอดภัย

สคอฟิลด์อยากกลับใจจะขาด แต่พวกเขาตัดสินใจวิ่งต่อด้วยคำยืนกรานของเบลคว่าอยากได้เห็นสถานการณ์จริงด้วยตาตนเอง

การวิ่งของทั้งคู่มาถึงจุดที่เบลคต้องเสี่ยงชีวิตช่วยสคอฟิลด์ออกมาจากถ้ำที่กำลังถล่ม ทั้งๆ ที่สคอฟิลด์ตามองไม่เห็น เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายลง เบลคยังคงถามสคอฟิลด์อีกครั้ง ด้วยความรู้ซึ้งถึงจิตใจเพื่อนที่เกือบจะเอาชีวิตมาทิ้งว่า “จะไปต่อมั้ย จะกลับก็ได้นะ” สคอฟิลด์ก็ยังตัดสินใจไปต่อ อาจจะด้วยความรู้สึกติดค้างหนี้บุญคุณอยู่ก็เป็นได้

ทั้งคู่วิ่งมาจนถึงจุดที่เบลคต้องจบชีวิตด้วยความปราถนาดีอันไร้เดียงสา เขามองศัตรูว่าไม่ใช่คนที่จะประสงค์ร้ายเสมอไป เบลคถูกสังหารโดยนักบินฝ่ายศัตรู ผู้ซึ่งเขาช่วยชีวิตออกจากซากเครื่องบินที่กำลังจะระเบิด

ทั้งที่เห็นเพื่อนรักผู้ช่วยชีวิตเขาจบชีวิตอย่างไม่เป็นธรรมต่อหน้าต่อตา สคอฟิลด์ยังคงตัดสินใจจะไปต่อ อาจจะด้วยความรู้สึกว่าต้องสานภารกิจแทนเพื่อนผู้มีบุญคุณ หรืออาจจะด้วยคำมั่นสัญญาว่าต้องเอาสัญลักษณ์ตราทหารไปให้พี่ชายของเพื่อน หรือปะปนกันทั้งสองอย่าง

เขาวิ่ง วิ่ง และวิ่ง วิ่งหนีการถูกไล่ยิง และหลบลูกกระสุนโดยที่ตัวเองไม่มีปืน

เขาวิ่งเพื่อชีวิตตัวเอง…

จนกระทั่งเขาวิ่งหนีการไล่ล่ามาพบกับผู้หญิงที่เลี้ยงเด็กซึ่งไม่ใช่ลูกของตนท่ามกลางไฟสงครามรอบด้าน สคอฟิลด์ตัดสินใจมอบเสบียงทุกอย่างที่เขามีให้คนอื่นที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้มีชีวิตอยู่รอดต่อไป

เมื่อวิ่งมาถึงแนวหน้าของการรบ เขาก็ต้องตกตะลึง เพราะสถานการณ์จริงนั้นต่างจากที่ได้รับข่าวสารมากมาย การสู้รบยังคงดุเดือด อันตรายมีอยู่ทุกย่างก้าว เขาได้ตระหนักรู้ว่าการวิ่งของเขาในตอนนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อช่วยชีวิตพี่ชายของเพื่อนเพียงคนเดียว แต่จะช่วยชีวิตเพื่อนร่วมชาติได้อีกไม่น้อยเลย

สคอฟิลด์ได้รับข่าวดี เขารู้ที่ตั้งหน่วยรบที่พี่ชายของเบลคประจำการอยู่ชัดเจนแล้ว แต่ข่าวร้ายที่มาพร้อมกันนั้นคือ เขาต้องวิ่งฝ่าแนวรบ ฝ่าดงกระสุนที่สาดมาจากทุกทิศ ฝ่าทุ่นระเบิดเกลื่อนสนามเพลาะ ฝ่าลูกระเบิดที่ยิงมาจากฝ่ายศัตรู เพื่อไปให้ถึงจุดหมายที่ต้องการ เขารู้ดีว่าชีวิตอาจจบสิ้นได้ในทุกฝีก้าว

1917

ที่สุดแล้วสคอฟิลด์ก็ตัดสินใจวิ่งอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นการวิ่งเพื่อผู้อื่นโดยไม่คิดถึงชีวิตตัวเอง และเพื่อที่จะช่วยชีวิตเพื่อนร่วมชาติให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เขาออกวิ่งเพื่อชีวิตคนอื่นจริงๆ …

นอกเหนือจากความภูมิใจที่ช่วยชีวิตเพื่อนร่วมชาติจำนวนไม่น้อยแล้ว รางวัลที่สคอฟิลด์ได้รับก็มีเพียงคำขอบคุณจากเบลคผู้พี่ ที่เขาอยู่กับน้องชายในวาระสุดท้าย ทำให้น้องชายไม่ต้องตายอย่างโดดเดี่ยว และคำอนุญาตของเบลคผู้พี่ที่ให้เขาเขียนจดหมายถึงแม่ของตนบอกเล่าเรื่องราวความกล้าหาญของเบลคผู้น้อง

นับตั้งแต่เบลคจบชีวิตลง สคอฟิลด์อาจจะไม่ได้คิดถึงเรื่องของตัวเองเลย ตราบจนกระทั่งหยิบรูปถ่ายคนทางบ้านที่มีคำเขียนหลังรูปว่า “กลับมาหาเรานะ” จึงได้ตระหนักรู้ว่าคนที่รออยู่ทางบ้านคงสุขล้นเมื่อเห็นคนที่รักกลับสู่มาตุภูมิ

ทุกวันนี้คนในสังคมทุกคนตั้งหน้าตั้งตาวิ่ง แต่จะมีสักกี่คนที่วิ่งเพื่อคนอื่นโดยไม่คำนึงถึงชีวิตตนเอง

แล้วคุณล่ะ วิ่งเพื่อใคร?…

บทความนี้เสมือนแทนคำขอบคุณให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่เสี่ยงชีวิตตนเอง เพื่อดูแลและรักษาผู้ป่วยโควิด หลายท่านอยู่ข้างผู้ป่วยหนักที่ไม่มีญาติอยู่ด้วย เพื่อผู้ป่วยจะไม่ต้องเผชิญวาระสุดท้ายอย่างเดียวดาย รวมถึงพนักงาน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย คอยสนับสนุนและควบคุมการระบาด ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและคืนกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอันเป็นที่รักในเร็ววัน

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares