Link Copied!

Pawn Sacrifice (2014) – หมากรุกชิงอำนาจ

บ็อบบีเล่นหมากรุกระดับอัจฉริยะ ไต่เต้าไปสู่ระดับแกรนด์มาสเตอร์ในเวลาอันสั้น เดินหน้าสู่การชิงแชมป์โลกอย่างง่ายดาย แต่หารู้ไม่ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในตัวหมากบนกระดานที่ใหญ่กว่าด้วยเหมือนกัน

ผู้กำกับ เอ็ดเวิร์ด ซวิค เริ่มต้นเล่าเรื่องนักหมากรุกชั้นนำของโลกชาวอเมริกัน จากแฟ้มประวัติของหน่วยข่าวกรองของรัฐบาลสหรัฐ

บ็อบบี ฟิสเชอร์ เกิดที่เมืองชิคาโก ตอนเขาอายุได้ 6 ขวบคุณแม่เรจินาพาย้ายมาอยู่ในนครนิวยอร์ก เพียงปีเดียวก็ต้องย้ายบ้านอีกรอบจากย่านแมนฮัตตันไปปักหลักที่ย่านบรูคลินแทน ที่บ้านใหม่นี้บ็อบบีได้รู้จักกับเกมหมากรุก เขาเริ่มหัดเล่นกับโจน พี่สาว และหลังพี่สาวหยุดเล่นไป บ็อบบีก็เอาแต่ขลุกอยู่ในห้อง ฝึกฝนต่อด้วยตัวคนเดียว

บ็อบบีเป็นคนอ่อนไหวต่อสรรพเสียงรอบตัว เกมหมากรุกช่วยเบี่ยงเบนเขาให้ไปจดจ่อกับตาเดินบนกระดานแทนได้ ตอนนี้คุณแม่กลับกังวลว่าลูกชายจะเหงาและหมกมุ่นเกินควร จึงพาเขาไปลองรู้จักชมรมหมากรุกดู จะได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้างเสียบ้าง

คาร์ไมน์ ไนโกร ประธานชมรมทึ่งกับฝีมือเดินหมากของเด็กชายคนนี้ จึงอาสาเป็นคนสอนแนะและขัดเกลาให้ ทั้งยังส่งบ็อบบีลองลงแข่งรายการต่างๆ มากมาย ฝีมือเด็กชายรุดหน้าแบบก้าวกระโดด จนผู้ใหญ่ในชมรมหลายคนต้องประหลาดใจ

ตั้งแต่นั้นมาบ็อบบีตั้งใจมั่นว่า เขาจะต้องเป็นแชมป์โลกหมากรุกให้ได้

สหพันธ์หมากรุกสากล (FIDE) จัดลำดับชั้นนักเล่นหมากรุกเอาไว้ ใช้การสะสมคะแนนเป็นเกณฑ์วัด เริ่มต้นจาก

Candidate Master (CM) ขั้นต่ำ 2200 คะแนน

FIDE Master (FM) ขั้นต่ำ 2300 คะแนน

International Master (IM) ขั้นต่ำ 2400 คะแนน

และสูงสุดคือ Grandmaster (GM) ขั้นต่ำ 2500 คะแนน

ยังไม่ทันบรรลุนิติภาวะบ็อบบีก็ขยับชั้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสร้างเกียรติประวัติไว้หลายอย่างแล้ว

ขณะอายุ 13 บ็อบบีเอาชนะ โดนัลด์ เบิร์น นักเล่นระดับมาสเตอร์ได้ เขายอมสละตัวควีนทิ้ง แล้วเอาตัวหมากอื่นรุกไล่จนคู่ต่อสู้จนมุม สื่อมวลชนเรียกขานกระดานนี้ว่า “เกมแห่งศตวรรษ” (Game of the Century) ซึ่งยังเป็นที่เลื่องลือมาตลอด 50 ปีให้หลัง

ต่อมาอายุ 14 เขากลายเป็นแชมป์หมากรุกสหรัฐอเมริกาที่อายุน้อยที่สุด พอเข้าวัย 15 เขาก้าวขึ้นระดับแกรนด์มาสเตอร์ และเป็นผู้ท้าชิงแชมป์โลกที่อายุน้อยสุดที่เคยมีมา

จากนั้นตอนอายุ 20 บ็อบบีคว้าแชมป์สหรัฐฯ ปี 1963/64 ด้วยการชนะรวดทั้ง 11 เกม จนวันนี้ยังไม่มีใครทำลายสถิตินี้ลงได้

ไม่ใช่แค่เรื่องน่าชื่นชมอย่างเดียว บ็อบบีสร้างวีรกรรมป่วนไว้ไม่น้อยเช่นกัน เช่น ที่งานหมากรุกโอลิมปิก ปี 1962 ที่เมืองวาร์นา ประเทศบัลแกเรีย หลังจากเป็นคนเดียวที่ชนะแกรนด์มาสเตอร์ มิเกล นาจ์ดอร์ฟ ได้ในรายการนี้ จู่ๆ บ็อบบีก็ถอนตัวกลางคัน ทั้งๆ ที่กำลังขึ้นแท่นจ่อเป็นผู้ท้าชิงแชมป์โลกอายุน้อยที่สุด เขามโนไปเองว่าฝ่ายรัสเซียวางแผนเตะถ่วงให้เขาเสียเวลามากเกินไปกว่าจะถึงรอบชิงฯ เป็นต้น

ยังโชคดีที่ได้ พอล มาร์แชล (ไมเคิล สตอลเบิร์ก) ทนายมือดีอาสามาคอยเก็บกวาด แก้ไขเรื่องวุ่นวายต่างๆ ให้ ช่วยจัดการให้เข้ารูปเข้ารอย สมประโยชน์กันทุกฝ่าย ทั้งงานหมากรุก และธุรกิจบันเทิง รวมไปถึงงานการเมืองระหว่างประเทศของรัฐบาล แต่ก็เล่นเอากุมขมับไปหลายหน

ส่วนบาทหลวง บิล ลอมบาดี (ปีเตอร์ ซาร์สการ์ด) แกรนด์มาสเตอร์ที่เคยเดินหมากชนะบ็อบบีครั้งหนึ่ง ถูกเรียกตัวมานาทีสุดท้ายให้มาช่วยเป็นโค้ชคู่ซ้อม คอยช่วยดูแล คอยกล่อมบ็อบบีไม่ให้เตลิดไปไกล เขาเคยบอกไว้ว่าบ็อบบีไม่ชอบผลเสมอ พอๆ กับไม่ชอบแพ้ เขาจะสู้จนกว่าจะชนะไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ

งานชิงแชมป์หมากรุกโลก ปี 1972 จัดขึ้นที่เมืองเรย์ชาวิค ประเทศไอซ์แลนด์ บ็อบบี ฟิสเชอร์ (โทบี แม็กไกวร์) ได้เป็นผู้ท้าชิง เขาจะได้เผชิญหน้ากับ บอริส สแปสสกี (ลีฟ ชเรเบอร์) แชมป์โลกคนปัจจุบัน ชาวรัสเซีย ที่เขาเฝ้ารอมานานเสียที

กำหนดการแข่งสัปดาห์ละ 3 กระดาน ในวันอาทิตย์ วันอังคาร และวันพฤหัส ส่วนวันเสาร์นับเป็นวันพักผ่อน แต่ละกระดาน ผู้ชนะจะได้ 1 แต้ม หากเสมอแบ่งคะแนนไปคนละครึ่ง แข่งทั้งหมด 24 กระดาน ใครได้แต้มมากกว่า หรือได้ 12.5 แต้มก่อนจะเป็นผู้ชนะ หากจบที่ 12 แต้มเท่ากัน แชมป์เก่าจะได้ครองแชมป์ต่อไป

วันเปิดงานก็โดนบ็อบบีเบี้ยวเสียแล้ว เขาอ้างว่าผู้จัดไม่ทำตามสัญญาส่วนตัวหลายข้อ เลยไม่ยอมขึ้นเครื่องบินมา นอกจากนี้เขาอยากขอส่วนแบ่งเงินรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดรายการทั่วโลกเพิ่มเป็น 30% อีกด้วย กว่าพอลจะเจรจาลุล่วงการแข่งขันจำต้องล่าช้าไป 2 วันเต็ม

เกมที่ 1 สแปสสกีชนะ คว้า 1 แต้มใส่กระเป๋าไปแบบงงๆ

เกมที่ 2 บ็อบบีไม่ยอมมาแข่ง สแปสสกีจึงชนะบาย ได้ 1 แต้มไปฟรีๆ

บ็อบบีบอกว่าเวทีแข่งมีเสียงดังเกินไป แถมเสียงกล้องโทรทัศน์ก็รบกวนสมาธิเขา จะขอย้ายไปแข่งในห้องปิงปองที่เงียบสงบแทน สแปสสกีไม่อยากให้คู่แข่งใช้เป็นข้ออ้างหลบหน้าได้ จึงตอบตกลงตามน้ำไป

เกมที่ 3 บ็อบบีชนะ เก็บ 1 แต้ม ไล่หลังตามมาบ้าง

เกมที่ 4 ผลออกเสมอ แบ่งแต้มกันไปคนละครึ่ง

บ็อบบีสงบลงบ้างแล้ว นักหมากรุกทั้งสองตกลงกันว่าจะกลับมาแข่งบนเวทีเดิมตามที่จัดไว้ให้

เกมที่ 5 บ็อบบีชนะ หยิบมาอีก 1 แต้ม ตอนนี้แต้มรวมเสมอกันอยู่

นักข่าวรายงานว่า บ็อบบีมักเปิดกระดานด้วยรูปแบบที่ไม่คุ้นเคย เปลี่ยนแนวทางหลายครั้ง ทำเอาแฟนขาประจำงุนงง แต่นั่นกลับยิ่งชวนให้ผู้ชมทั่วไปอยากติดตามเข้าไปอีก

เกมที่ 6 บ็อบบีชนะ หยิบอีก 1 แต้ม เขาได้ออกนำเป็นครั้งแรก

บ็อบบีเปิดกระดานด้วยแผนควีนส์แกมบิต (Queen’s Gambit) ที่เขาไม่เคยใช้ในเกมทางการมาก่อนเลย ทำให้สปาสสกีต้องปรับแผนกะทันหัน ตั้งรับด้วยแผนทาร์ทาคาวเออร์ (Tartakower) บ็อบบีเดินหมากอย่างแคล่วคล่อง และมั่นใจ หลังพ่ายเกมนี้สแปสสกีถึงกับลุกขึ้นยืนปรบมือชื่นชมรูปแบบหมากอันสวยงามพิสดารของบ็อบบีไปพร้อมๆ กับผู้ชมเลยทีเดียว

กระแสความนิยมหมากรุกในสหรัฐพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ มองไปทางไหนก็เห็นคนเล่นหมากรุกอยู่ทุกที่ ในร้านอาหาร สวนสาธารณะ หรือแม้แต่ในสำนักงาน ไม่ใช่เฉพาะแต่ผู้ชาย ผู้หญิงก็ยังหันมาสนใจหัดเล่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งทั่วโลกก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

วันที่ 21 สิงหาคม ถึงเกมที่ 21 บ็อบบีชนะ ได้เพิ่มอีก 1 แต้ม คะแนนรวม 12.5 ต่อ 8.5 ส่งให้บ็อบบีเป็นอเมริกันแท้ๆ คนแรกที่ได้แชมป์หมากรุกโลก ยุติตำแหน่งแชมป์ที่รัสเซียผูกขาดมายาวนานตลอด 24 ปีในทันที

บรรดาสื่อมวลชนต่างยกย่องการแข่งขันครั้งนี้ให้เป็น “แมตช์แห่งศตวรรษ” เนื่องจากวิเคราะห์กันว่า แพรวพราวทั้งกลหมากบนกระดานที่บ็อบบีปรับเปลี่ยนรูปแบบและแนวทางเพื่อใช้ต่อกรกับแชมป์โลกตลอดทัวร์นาเมนต์ และเกมจิตวิทยาที่นอกเวที ซึ่งคู่ควรกับคำว่าอัจฉริยะอย่างแท้จริง

อย่างที่รู้กันดีว่าหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดสงครามเย็นระหว่างมหาอำนาจสองขั้วบนเวทีโลก ชิงดีชิงเด่นผ่านระบอบปกครอง กิจการทหาร ภารกิจบนอวกาศ สภาพเศรษฐกิจ ตลอดจนงานด้านกีฬา บันเทิง นวัตกรรม รวมไปถึงเรื่องใต้โต๊ะอย่างสงครามย่อยในภูมิภาค เช่น สงครามเวียดนาม การรุกรานเช็กโกสโลวาเกีย กระแสปฏิวัติในประเทศโลกที่สาม สมทบด้วยงานจารกรรมของ KGB หรือ CIA และการแปรพักตร์ของสายลับ เป็นต้น

ฝ่ายรัสเซียพยายามวางหมากป้องกันเกมไซโคที่คาดว่าฝ่ายสหรัฐฯ วางแผนเล่นงานนักหมากรุกฝ่ายตน ต่อมารับรู้กันว่าบ็อบบีมีอาการหวาดระแวงเกินปกติ ได้ยินเสียงแว่วในหูบ่อยๆ พ้นจากเกมหมากรุกเมื่อไรสติจะไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวนัก สถานการณ์ต่างๆ ที่นอกเวทีแข่งขันอาจมิใช่แผนการอะไรเลย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดสั่นสะเทือนจิตใจสแปสสกีไม่มากก็น้อย ขณะเดียวกันสหรัฐก็กังวลใจด้วยว่าถ้าควบคุมบ็อบบีไม่อยู่ หากเขาไปเข้าร่วมกับฝ่ายรัสเซียจะยิ่งเสียหน้ากว่าเดิมด้วย

หลังจาก นีล อาร์มสตรอง เหยียบพื้นดวงจันทร์ ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน จับมือท่านประธาน เหมาเจอตุง ตามมาด้วยรัสเซียยังต้องแบกรับความพ่ายแพ้สงครามเย็นบนกระดานหมากรุกครั้งนี้อีกยกหนึ่ง ในสายตาชาวโลกดูเหมือนพรรคคอมมิวนิสต์จะเสียรังวัดไปพอสมควร และอาการคงทรงๆ อยู่จนกระทั่งถึงจุดสิ้นสุดอย่างเป็นทางการเมื่อแบ่งแยกเป็นประเทศย่อยเมื่อปี 1991

บ็อบบีเล่นหมากรุกระดับอัจฉริยะ ไต่เต้าไปสู่ระดับแกรนด์มาสเตอร์ในเวลาอันสั้น เดินหน้าสู่การชิงแชมป์โลกอย่างง่ายดาย แต่หารู้ไม่ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในตัวหมากบนกระดานแห่งอำนาจการเมืองโลก ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่า ข่าวบ็อบบีป่วยทางจิตแบบอ่อนๆ ที่เสนอเอาไว้นั้นเป็นส่วนหนึ่งของเกมด้วยหรือไม่ แต่รับรองได้เลยว่าเขาไม่ใช่ตัวคิงอย่างแน่นอน

โรเบิร์ต เจมส์ ฟิสเชอร์ (Robert James Fischer) เกิด 9 มีนาคม 1943 เสียชีวิต 17 มกราคม 2008 ที่ประเทศไอซ์แลนด์ รวมอายุ 65 ปี

*ข้อมูลนอกเหนือจากภาพยนตร์ เพิ่มเติมจากวิกิพีเดีย

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares