การได้เห็นภาพ เจนนี คิม แห่งวงแบล็คพิงค์ สวมใส่เสื้อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงในมิวสิควิดีโอเพลงล่าสุดที่ชื่อว่า “Pink Venom” ที่มียอดวิวไปแล้ว 44 ล้านวิว หลังถูกปล่อยลงยูทูบไปเมื่อราว 7 ชั่วโมงที่แล้ว
นี่จึงเป็นการพิสูจน์ให้เห็นกันอย่างชัดเจนอีกครั้งว่า ฝ่ายบริหารของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของตระกูลเกลเซอร์ ในยุคที่ไร้ เอ๊ด วูดเวิร์ด ซีอีโอสมองมันนี ยังคงแข็งแกร่งในสนามธุรกิจเช่นเดิม
แม้ว่าเสื้อตัวดังกล่าวจะไม่ใช่เสื้อแข่ง แต่เป็นเพียงเสื้อที่นักเตะใส่เป็นเสื้อลำลองก็ตาม แต่ก็แสดงให้เห็นถึงโลโกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่เกือบ 20 วินาที
ซึ่งเพียงเท่านั้นก็ทำให้สายตาของคนดูหลายสิบล้านคนได้ละจากแบรนด์ที่ ลิซา สวมใส่ มาสนใจที่เสื้อตัวสีดำบนลำตัวของ เจนนี แทน
แน่นอนว่าการที่สมาชิกของวงจะใส่ จะสวมเครื่องแต่งกาย หรือ เครื่องสำอาง หรือ เฟอร์นิเจอร์ใดๆ ออกสื่อ หรือ ออกงาน ย่อมจะต้องมีความสำคัญทางการค้าอยู่แล้ว
เสื้อของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บนตัวเจนนี จึงไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น แต่จะต้องมีการเจรจาต่อรองกันก่อนใส่ อันมีผลประโยชน์ที่ไม่น้อย ซึ่งทั้งสองฝ่ายล้วนต้องวินวินกับดีลนี้ ทั้งในแง่ของความสำเร็จ และ ฐานแฟนคลับ
ลิซา เจนนี คือสองสาวที่แบรนด์เนมหลายค่าย รวมทั้งบริษัท กับ สินค้าหลายประเทศต้องการตัว เพราะไม่ว่าทั้งสี่สาวจะหยิบจับอะไร โดยเฉพาะสองคนที่กล่าวมาก็ล้วนมียอดขายที่พุ่งแรงขึ้นทันที
ก็ขนาด ลิซา เพียงแค่เคยเปรยว่าคิดถึงชูกชิ้นยืนกินที่บุรีรัมย์บ้านเกิดเบาๆ ก็เกิดปรากฏการณ์ลูกชิ้นยืนกินย่านหน้าสถานีรถไฟ กับ ยอดนักท่องเที่ยวของจังหวัดก็เพิ่มขึ้นแบบมหาศาลหลังจากนั้นในทันที
หรือ ในวันที่ เดวิด เบ็คแฮม พบ แบล็คพิงค์ ในงานหนึ่งของอาดิดาส ที่ก่อให้เกิดภาพลักษณ์อันอบอุ่นระหว่างแดดดี๊ กับ ลูกสาวทั้งสี่ จนทำให้ยอดคนติดตามของเจ้าพ่อลูกนิ่งทางไอจีเพิ่มขึ้นไปด้วย
จึงไม่ต้องคิดว่าตราสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ อาดิดาส จะเป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้นอีกมากแค่ไหน
แต่สำหรับเหล่าสปอนเซอร์ของสโมสรคงจะต้องมีความรู้สึกเสียดายไปบ้าง เพราะถ้าดีลนี้ เจนนี สวมเสื้อแข่งฤดูกาลล่าสุดลงไป สปอนเซอร์บนเสื้อคงจะยิ้มแก้มปริแม้จะต้องแลกกับค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุนมหาศาลก็ตาม
ซึ่งเมื่อไม่ปรากฏไปตามนั้น ก็แสดงว่าเหล่าสปอนเซอร์บนเสื้อคงไม่ได้มองไปในทางเดียวกันกับที่สโมมรมอง แต่เพียงเท่านี้ แบล็คพิงค์ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ขึ้นเต็มฟีดเฟซบุควันนี้แล้ว
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม