Link Copied!

ไร้คู่แข่ง! ‘เสธ.หมึก’ ผงาดนายกสองล้อสมัยที่ 3

“เสธ.หมึก” ผงาดนั่งเก้าอี้นายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากสโมสรสมาชิกพร้อมใจเทคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ บริหารงานต่ออีก 4 ปี

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี 2567 ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 โดยมีสโมสรสมาชิกเข้าร่วมประชุม 48 สโมสร จากทั้งหมด 51 สโมสร เกินครึ่งหนึ่งตามระเบียบข้อบังคับสมาคมฯ

วาระสำคัญคือ การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ หลังจากที่ พลเอกเดชา บริหารงานมาจนครบวาระ 4 ปี ที่ประชุมมีมติให้ พลเอกเพิ่มศักดิ์ พวงสาโรจน์ เป็นประธานดำเนินการประชุม โดยสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียงมีจำนวน 46 สโมสร จากที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 48 สโมสร ยกเว้น 2 สโมสรที่เพิ่งรับเข้าเป็นสมาชิกใหม่ยังไม่มีสิทธิ์ออกเสียง

จากนั้น ผู้แทนจากสโมสรบีเอ็มเอ็กซ์ อบจ.สุพรรณบุรี ได้เสนอชื่อ พลเอกเดชา เหมกระศรี ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ต่ออีกวาระหนึ่ง โดยสโมสรสมาชิกทั้ง 46 สโมสรมีมติเป็นเอกฉันท์เทใจยกมือให้ทั้งหมด ส่งผลให้ พลเอกเดชาได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมฯ สมัยที่ 3 ติดต่อกัน มีวาระการบริหารงานอีก 4 ปี (พ.ศ.2567-2571)

หลังการเลือกตั้ง พลเอกเดชา เปิดเผยว่า ขอขอบคุณสโมสรสมาชิกทั้ง 46 สโมสรที่ให้ความไว้วางใจตนเองดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจักรยานฯ ต่ออีก 1 สมัย สำหรับแผนงานหลังจากนี้คือเรื่องของการเตรียมนักกีฬาเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬายูธโอลิปิกเกมส์ 2026 ที่ประเทศเซเนกัล ก็จะทำการพิจารณานักกีฬาอายุระหว่าง 16-17 ปี ในประเภทถนน และเสือภูเขาเพื่อเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขัน ส่วนบีเอ็มเอ็กซ์ยังไม่ได้รับการยืนยันจากยูซีไอ แต่เราก็ต้องเตรียมเอาไว้เช่นกัน นอกจากนี้ก็เตรียมการในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพช่วงปลายปี 2568 ตนเองในฐานะประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียนก็จะพิจารณาในเรื่องของรายการชิงเหรียญทองให้ครบทุกประเภท รวมไปถึงการเตรียมทีมนักกีฬาด้วย ขอให้สโมสรสมาชิกฝึกซ้อมนักกีฬาประเภทต่าง ๆ เข้าแข่งขันรายการชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งสมาคมฯ จะพิจารณาคัดนักกีฬาที่มีผลงานดี มีวินัย เป็นนักกีฬาทีมชาติไทยต่อไป

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นก็มีแผนยุทธศาสตร์ส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมและแข่งขันในต่างประเทศ หรืออาจส่งนักกีฬาไปฝังตัวอยู่กับสโมสรอาชีพดัง ๆ ของทวีปยุโรป เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ ส่วนเรื่องการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทย ขอฝากให้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พิจารณาการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม จากที่สมาคมจัดการแข่งจัน 28 สนาม แต่ กกท. ให้งบประมาณจัดการแข่งขันมาเพียง 3 สนาม ซึ่งสมาคมฯ ต้องดิ้นรนหางบประมาณมาจัดเองเพื่อเฟ้นหานักกีฬาก้าวไปสู่ทีมชาติไทย ส่วนการพัฒนาบุคลากร สมาคมกีฬาจักรยานฯ สนับสนุนให้ผู้ตัดสินของไทยก้าวไปสู่ระดับอินเตอร์เพิ่มมากขึ้น และการส่งผู้ฝึกสอนออกไปเป็นวิทยากรในระดับนานาชาติ รวมทั้งการจัดอบรมผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสินระดับต่าง ๆ ภายในประเทศ

“เสธ.หมึก” กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการจัดการแข่งขันจักรยานระดับนานาชาติอย่าง การแข่งขันจักรยานทางไกลนานาชาติ “ทัวร์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024” ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายนนี้มีความคึกคักอย่างมาก มีทีมระดับอาชีพให้ความสนใจอยากมาร่วมแข่งขันจำนวนมาก ส่วนจังหวัดที่ร่วมเป็นเจ้าภาพก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ตนก็จะเดินทางไปพบดับ มร.เดวิด ลาปาเตียนท์ ประธานสหพันธ์จักรยานนานาชาติ เพื่อหารือการพัฒนาการแข่งขันจักรยานทางไกลในประเทศไทย

Total
0
Shares