Link Copied!

ประวัติศาสตร์หน้าใหม่! สองล้อคว้าตั๋วโอลิมปิก 5 ที่นั่ง

สองล้อไทย สร้างผลงานกระหึ่ม คว้าตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ “ปารีส 2024” รวม 5 ที่นั่ง มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้รับข่าวดี นักปั่นไทยสามารถคว้าตั๋วไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพิ่มเป็น 5 ที่นั่ง จากผลงานของ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นประเภทลู่ระยะสั้นทีมชาติไทยที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการสองล้อไทย หลังจากสิ้นสุดการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกนักปั่นเข้าร่วมชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์ 2024 โดยได้โควตาในประเภทคีรินชายแน่นอนแล้ว นับว่าเป็นการคว้าโควตาได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ

พลเอกเดชา กล่าวว่า ในการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ ยูซีไอ เนชั่นส์คัพ 2024 สนามที่ 3 ที่เมืองมิลตัน ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 12-14 เมษายน ที่ผ่านมา จายสามารถฝ่าฟันเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการคีริน โดยจบการแข่งขันในอันดับที่ 9 เก็บคะแนนสะสมเพิ่มอีก 480 คะแนน ทำให้คะแนนสะสมคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ทีมชาติไทยในในประเภทคีริน จากการประกาศของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) เมื่อวันที่ 15 เมษายน ไทยอยู่อันดับ 13 ของโลก มีทั้งสิ้น 2,949 คะแนน

“สำหรับการคัดเลือกโควตาโอลิมปิกเกมส์ในประเภทคีริน ทางยูซีไอกำหนดไว้ว่า ให้คัดเลือกจากอันดับคัดโอลิมปิกเกมส์ของรายการทีมสปรินท์ก่อน 8 ชาติแรก ซึ่งชาติที่ควอลิฟายประกอบด้วย ออสเตรเลีย, เนเธอร์แลนด์, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร, จีน, เยอรมนี และแคนาดา จากนั้นในประเภทคีริน จะคัดเลือกจาก 7 ชาติ ที่ยังไม่ควอลิฟายในทีมสปรินท์ ซึ่งผลปรากฏว่า 7 ชาติที่ดีที่สุดที่ยังไม่ควอลิฟายในทีมสปรินท์ประกอบด้วย มาเลเซีย, โคลอมเบีย, นิวซีแลนด์, ตรินิแดด แอนด์ โทเบโก, ซูรินัม, อิสราเอล และไทย โดยยูซีไอจะประกาศอย่างเป็นทางการแจ้งให้ทุกชาติที่ผ่านควอลิฟายรับทราบทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปยังคณะกรรมการโอลิมปิกแต่ละชาติตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ ในวันที่ 22 เมษายนนี้ และนอกเหนือจากการได้โควตาคีรินแล้ว จายยังได้สิทธิ์ลงแข่งขันรายการสปรินท์บุคคลโดยอัตโนมัติอีกรายการ”

พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ภายหลังจากการประกาศอันดับล่าสุดดังกล่าว มร.ไทรอน โจนส์ หนึ่งในทีมผู้ฝึกสอนของศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้ส่งข้อความแสดงความยินดีมายังสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ในการที่นักปั่นไทยที่อยู่ในความดูแลของศูนย์ฝึกฯ ทั้ง 2 คนคือ จาย อังค์สุธาสาวิทย์ และ “เจ้าเอ้” ส.ท.โกเมธ สุขประเสริฐ ต่างก็ผ่านควอลิฟายเข้าสู้ศึก “ปารีสเกมส์” ซึ่งก็ถือเป็นความสำเร็จระดับสูงจากความร่วมมือของสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ กับศูนย์ฝึกจักรยานโลก

“จากผลงานล่าสุด ส่งผลให้โอลิมปิกเกมส์ฤดูร้อน 2024 กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการกีฬาจักรยานไทย ที่เราสามารถผ่านควอลิฟายได้ถึง 5 ที่นั่ง ใน 3 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทถนน ควอลิฟาย 3 ที่นั่งจากไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง, โรดเรซหญิง และโรดเรซชาย ประเภทบีเอ็มเอ็กซ์ ควอลิฟาย 1 ที่นั่งจากบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงชาย และประเภทลู่ ควอลิฟาย 2 รายการคือคีรินกับสปรินท์บุคคล โดยเฉพาะในประเภทบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงชาย เป็นการผ่านควอลิฟายครั้งแรกนับตั้งแต่บีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงบรรจุเข้าชิงชัยในโอลิมปิกเกมส์ตั้งแต่ปี 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ในขณะที่ประเภทลู่ นักปั่นไทยเคยเข้าร่วมชิงชัยครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1976 ที่เมืองมอลทรีล ประเทศแคนาดา และยังไม่เคยผ่านควอลิฟายนับตั้งแต่เริ่มใช้ระบบการคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์” นายกสองล้อไทยกล่าว

พลเอกเดชา กล่าวต่อว่า สำหรับจายซึ่งกรำศึกมายาวนานเกือบ 1 ปีเต็มก็จะเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อพักผ่อนช่วงสั้น ๆ ระหว่างวันที่ 19 เมษายน – 5 พฤษภาคม จากนั้นก็จะเดินทางกลับไปยังศูนย์ฝึกจักรยานโลกประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อฝึกซ้อมเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่รับศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ระหว่างวันที่ 26 กรกฎาคม ถึง 11 สิงหาคม ศกนี้ ขณะเดียวกันสมาคมกีฬาจักรยานฯ จะส่ง “เจ้าแนว” นายนรเศรษฐ์ธาดา บุญมา นักปั่นดาวรุ่งอีกคนไปแข่งขันรายการนานาชาติ “เอเชี่ยน แทร็ค ซีรี่ส์ เพรสซิเด้นท์ คัพ 1&2” ระหว่างวันที่ 3-4 พฤษภาคม ที่เมืองนิไล ประเทศมาเลเซีย หากนรเศรษฐ์ธาดาสามารถทำอันดับดี ๆ ในการการคีรินและสปรินท์ สามารถเก็บคะแนนสะสมยูซีไอมาเพิ่มได้อีกอย่างน้อย 10 คะแนน ก็จะได้สิทธิ์เป็นตัวสำรองของจายไปร่วมทัพโอลิมปิกเกมส์ 2024 ซึ่งไม่น่ามีปัญหาอะไรที่นรเศรษฐ์ธาดาจะทำแต้มได้

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนประเภทถนน สมาคมกีฬาจักรยานฯ เก็บตัวฝึกซ้อมนักปั่นชุดโอลิมปิกเกมส์มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ต่อเนื่องมาตลอด และยังคงฝึกซ้อมต่อไปอย่างหนักโดยเฉพาะการขี่ขึ้นเขาที่เป็นปัจจัยสำคัญของสนามแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งทางสตาฟฟ์โค้ชวางเส้นทางการฝึกซ้อมไว้ที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นหลัก แต่เมื่อเจอกับสภาวะมลพิษทางอากาศจากฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ก็จะย้ายมาปักหลักฝึกซ้อมที่เขาใหญ่ในบางช่วงเวลา ส่วนเดือนสุดท้ายก่อนถึงโอลิมปิกเกมส์ก็จะยกทีมไปฝึกซ้อมและปรับสภาพร่างกายของนักกีฬาที่ประเทศฝรั่งเศสก่อนลุยศึกใหญ่ต่อไป

“สำหรับบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิง ทีมนักปั่นไทยจะปักหลักฝึกซ้อมอยู่ในประเทศไทย หลังจากที่ได้ไปชิมลางแข่งขันในสนามจริงที่เวนต์ แควนติน ในฝรั่งเศสมาแล้ว โดย มร.ฮาร์วี่ เครป หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวสวิสเซอร์แลนด์ได้วางโปรแกรมฝึกซ้อมให้แก่ โกเมธ ให้เข้ากับสภาพสนามแข่งขันจริง โดยเฉพาะในเรื่องความเร็ว ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมแข่งขันจักยานบีเอ็มเอ็กซ์ชิงแชมป์เอเชีย 2024 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 29-31 พฤษภาคม ที่สนามบีเอ็มเอ็กซ์เรซซิงภายในสวนกีฬากมล ของเอฟบีที ในเขตหนองจอก และก็ยังจะฝึกซ้อมทั้งด้านเทคนิคและความแข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงห้วงเวลาการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ต่อไป นอกจากนั้นในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย สมาคมฯ ตั้งเป้าว่าหาก นายอภิสิทธิ์ ใจอยู่ ทำผลงานได้ดีหรือคว้าแชมป์ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชาย ก็จะได้สิทธิ์เป็นนักกีฬาสำรองได้ร่วมทีมกับไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 เช่นเดียวกัน” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย

Total
0
Shares