Link Copied!

โอลิมปิกรำลึก

“โฟล-โจ อัจฉริยะ​ตัวแม่ หรือ แค่สารกระตุ้น” ในวงการกีฬา​ความสัมพันธ์​ระหว่างนักกีฬา​กับโค้ช หลายคู่มักจะมีความแน่นแฟ้นผ่านรูปแบบต่างๆ ตามความสนิทสนมที่เกิดขึ้น

แต่สำหรับ บ็อบ เคอร์​ซี โค้ชกรีฑาตาแหลมแห่ง University of California, Los Angeles (UCLA)  กับ ฟลอเรนซ์ กริฟฟิธ จอยเนอร์ สามารถเป็นได้ทั้งโค้ช , เพื่อนแท้ และ ผู้สร้าง

โฟลโจ (Flo Jo)​ คือ ชื่อเรียกสั้นๆ ของตำนานนักวิ่งระยะสั้นของวงการกรีฑา​โลก ที่กว่าชีวิตของเธอจะประสบ​ความ​สําเร็จ​ได้ เธอต้องเกือบแลกมาด้วยการเป็นผู้หญิงธรรมดาที่หาเช้ากินค่ำในระบบทุนนิยมตามชนชั้นล่างของประเทศ​โดยทั่วไป

โฟลโจเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์​ในฐานะนักกรีฑา​ และ ประสบความสำเร็จพอประมาณในฐานะนักกรีฑา​คนนึงพึงจะได้รับในช่วงแรกๆ

ปี 1980 โค้ชบ็อบต้องนำเงินส่วนตัวมามอบให้โฟลโจเพื่อให้นำไปดำรงชีวิต จนมีเวลากลับไปเรียนต่อ และ มีเวลาซ้อมวิ่ง

เพียงแต่ตอนนั้นยังไม่ใช่วันของเธอ โฟลโจจึงไม่ผ่านการคัดเลือกการวิ่งระยะ​ 100 เมตร เพื่อไปแข่งโอลิมปิกที่มอสโก​

ในโอลิมปิกปี 1984 ที่ลอสแองเจลิส​ โฟลโจ คือเจ้าของเหรียญเงิน​วิ่ง 200 เมตรหญิง ซึ่งแน่นอนว่าคนจะไม่จำอันดับสอง ซึ่งสะท้อนผ่านพิธีรับเหรียญรองแชมป์​ฟุตบอล​ชิงแชมป์​แห่งชาติ​ยุโรป​รอบ​สุดท้าย​ปีล่าสุดได้เป็นอย่างดี

นักฟุตบอล​ทีม​ชาติ​อังกฤษ​หลายคนเลือกที่จะดึงเหรียญ​รองแชมป์​ออกจากคอ บางคนเลือกที่จะใช้มือรับตั้งแต่​ตอนส่งมอบ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ภูมิใจ แต่เป็นเพราะว่าในวินาทีนั้นพวกเขาผิดหวังเกินจะรับไหว นั่นคือเรื่องปกติ​ธรรมดาทั่วไป

สำหรับนักกรีฑาธรรมดาทั่วไปอย่างโฟลโจ เธอภาคภูมิใจ​ในความสำเร็จนั้นจนไม่มีวันจะลืม แม้เพื่อนร่วมชาติของเธอจะจำความสำเร็จ​ของเธอไม่ค่อยได้ แต่กลายเป็นว่าเรื่องปากท้องในชีวิตของเธอบีบรัดจนเธอไม่สามารถไปต่อได้

ในวัย 25 ปี ถ้าให้เธอเลือกระหว่างการซ้อมเพื่อไปต่อ กับการทำงานหาเลี้ยงชีพ โฟลโจเลือกที่จะดำเนินชีวิตต่อไปเช่นเดียวกับมนุษ​ย์เงินเดือนปากกัดตีนถีบอีกหลายสิบล้านคน มากกว่าการเสี่ยงดวงในสิ่งที่ยังจับต้องไม่ได้

เธอไม่ได้สนใจว่าตัวเองคือเจ้าของพรสวรรค์ที่น้อยคนจะมี​ เธอสนใจแค่ปัจจัย​สี่ที่แทบจะไม่เพียงพอ การเป็นพนักงานธนาคารธรรมดาๆ ที่หน้าเคาน์เตอร์​รับฝากเงินอย่างไรก็ทำให้เธอมีกิน

แต่โฟลโจในสายตาของ บ็อบ เคอร์​ซี ไม่เคยแปรเปลี่ยน เขามั่นใจในพรสวรรค์​ของเธอ และ มั่นใจในสายตาของตนเอง

ปี 1980 เขาดึงเธอกลับมาเข้าลู่วิ่งได้ แล้วทำไมเขาจะทำมันอีกครั้งในปี 1987 ไม่ได้ล่ะ

โชคดีที่โลกนี้ยังมีตา และ มนุษย์​โลกยังมีบุญพอ รวมทั้งศรัทธา​ที่โค้ชผู้มีบุญคุณ​กับนักกีฬาพรสวรรค์มีให้กัน  โฟลโจจึงได้หันกลับมาเข้าวงการอีกครั้ง นี่จึงเป็นดั่งการวัดดวงชะตาของคนทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งอันที่จริงโชคชะตายังปราณีโฟลโจอยู่เสมอ เมื่อภรรยาของโค้ชบ็อบ คือ แจ็คกี จอยเออร์​-เคอร์ซี ที่เป็นเพื่อนรักยอดนักสัตตกรีฑาระดับตำนานของเธอ และ ยังเป็นน้องสาวของ อัล จอยเนอร์​ เจ้าของเหรียญทอง​เขย่งก้าวกระโดด​จากแอลเอเกมส์ 1984 ที่ต่อมากลายเป็นสามีของโฟลโจในปี 1987 นี่เอง

อัลจึงเป็นทั้งพี่ชายของเพื่อนรัก , เป็นสามี , เป็นกำลังใจ และ เป็นโค้ชอีกหนึ่งคนของเธอ โฟลโจจึงมีพลังใจที่เปี่ยมล้นมากกว่าทุกครั้ง การซ้อมวิ่งที่เคยเป็นกีฬาอันงมงายด้วยศรัทธา​อันแรงกล้าจึงบังเกิดขึ้น

สำหรับคนอเมริกันในวันนั้น แทบไม่มีใครจะกล้าคิดว่าอดีตนักวิ่งที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนเกินเส้นของนักกรีฑาจะกลับมาได้

แต่เป็นเพราะหัวจิต​หัวใจ​ของเธอ จากกำลังใจรอบข้าง และ จากพรสวรรค์​ระดับเทพประทาน​ โฟลโจจึงทำได้เกินจริงยิ่งกว่าสิ่งที่ทุกคนคาดคิด

ในการวิ่งรอบคัดเลือก​เพื่อหานักกรีฑาหญิงประเภท 100 เมตรเข้าไปแข่งขัน​ที่โอลิมปิก​ โฟลโจทำลายสถิติ​โลก 10.76 วินาทีของ เอเวอรีน แอชฟอร์ด เจ้าของเหรียญทอง​ที่แอลเอ ด้วยเวลา 10.49 วินาที

นั่นคือสถิติที่ยืนยง​คงกระพันมานานนับ 33 ปี  สถิติในวันนั้นเธอทำได้ทั้งที่มีสายลมพัดช่วยเพียง 0.00 เท่านั้น

โลกทั้งโลกจึงหันมาจับตามองเธอด้วยความตื่นตะลึง

ก่อนโอลิมปิกจะเริ่มเกิน 1 ปี เธอคือสาวแบงก์​ร่างอวบที่ถูกคนรอบข้างรุมจับฝึกซ้อม

ก่อนโอลิมปิกจะเริ่ม 2 เดือน เธอคือม้านอกสายตาของสถาบันการจัดอันดับ​ทุกสถาบันในการวิ่งรอบคัดเลือก

วันที่ 16 กรกฎาคม​ 1988   เธอคือ World record 100 metre

และ เดือนกันยายน​ 1988  โฟลโจเป็นราชินีลู่ทั้งประเภท 100 เมตร กับ 200 เมตร , เป็นเจ้าของ 3 เหรียญ​ทอง 1 เหรียญ​เงิน , เป็นเจ้าของสถิติโลก และ เป็นเจ้าของสถิติ​ โอลิมปิก ทั้ง 100 เมตร 200 เมตร

ไม่มีใครลืมนักวิ่งที่มาในร่างแฟชั่นนิสต้าจ๋า ทั้งชุดแข่งล้ำดีไซน์ , เครื่องหน้าเปี่ยมสีสัน , ทรงผมนำสมัย , สีเล็บฉูดฉาด​บาดตา และ ท่วงท่าราวนางพญาของเธอลง

เมื่อมีคนถามว่าใครเป็นราชา 100 เมตร คนธรรมดาใช้เวลาคิดไม่นานก็จะเอ่ยชื่อ ยูเซน โบลต์ ออกมาได้

แต่ถ้าถามว่าใครคือราชินีลู่ระยะเดียวกัน หลายคนจะขมวดคิ้วคิด และ จะเลิกคิ้วถามว่าจริงสิ เมื่อได้ทราบชื่อเจ้าของสถิติ และ ระยะเวลาอันยาวนานที่สถิติ​คงอยู่อย่างคงกระพัน​

ในปี 1988 เธอคือผู้หญิง​ที่เร็วที่สุดในโลก

แต่ปี 1998 เธอคือผู้หญิงที่แทบจะทุกคนที่รู้จักต่างพากันเอ่ยถึงด้วยความเสียดายว่าเธอลาจากเร็วเกินไป

แต่จนถึงทุกวันนี้ ยังไม่มีใครไวไปกว่าเธอ

::

แม้จะมีเสียงค่อนขอด​ว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีผู้หญิงวิ่งไวขนาดนั้นในวันที่เทคโนโลยี​ และ วิทยาศาสตร์​ด้านการกีฬา​ยังไม่รุดหน้าเท่าในปัจจุบั​นนี้

เธอจะต้องพึ่งพาสารกระตุ้นแน่ๆ เพราะด้วยสภาพปัจจัยทุกอย่างของยุคสมัยนั้น จะไม่มีวันที่จะผู้หญิงหน้าไหนจะวิ่งได้ต่ำกว่า 10.6 วินาที

เพราะในวันนี้ที่อุปกรณ์​ในฟิตเนส​พร้อม , โภชนาการ​พร้อม , รองเท้าพัฒนามาถึงขีดสุด รวมทั้งชุดวิ่งมากนวัตกรรม​จากนักวิทยาศาสตร์​มาเป็นเครื่องอำนวย

เชลลี แอนน์ เฟรเซอร์-ไพรซ์ ลมกรดหญิงวัย 34 ปี จากจาไมก้า​ เพิ่งจะวิ่งได้แค่ 10.63 วินาที อันเป็นสถิติโลกอันดับที่ 4 ต่อจาก 3 อันดับแรกที่โฟลโจเคยสับเอาไว้

แม้ว่าหลังจากผ่านการตรวจสารกระตุ้น​มากกว่า 10 ครั้ง จะยืนยันได้ว่าโฟลโจคือผู้บริสุทธิ์ใน​ทางวิทยาศาสตร์​ แต่ข้อครหายังคงอยู่

ในการประกาศเลิกวิ่งในเดือนกุมภาพันธ์​ ปี 1989  โฟลโจต้องพลาดการทำตามความฝันด้วยการไปวิ่งอีกครั้งที่บาร์เซโลน่า​เกมส์ ปี 1992  ก็ยิ่งทำให้ข้อครหาเพิ่มมากขึ้นจากเดิม

แต่สำหรับเธอ นั่นเป็นการทิ้งหนึ่งฝันเพื่อไปวิ่งไล่ตามอีกหนึ่งความฝันในเส้นทางที่ไม่ไกลจากเดิม

ในลู่วิ่งเธอคือเจ้าแม่แฟชั่น ฝันใหม่ของโฟลโจจึงไม่เกินกว่าที่แฟนๆ จะคาดได้ เมื่อเธอหันหน้าเข้าสู่ความเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์​ , สร้างแบรนด์​เครื่องสำอาง , ทำวิดีโอสอนให้คนออกกำลังกาย , เข้าสู่​วงการบันเทิง และ เป็นภรรยากับเป็นคุณแม่อย่างเต็ม​ตัว

จนกระทั่งเดือนกันยายน ปี 1998  ฟลอเรนซ์ กริฟฟิธ จอยเนอร์ ถูกพบว่านอนเสียชีวิตบนเตียงนอนที่บ้านตัวเอง

คนในครอบครัว​ไม่ได้ติดใจกับสาเหตุของการเสียชีวิต​ด้วยอาการลมชักจนหมดสติ เพราะทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่าโฟลโจมีอาการนี้มานับตั้งแต่ตั้งครรภ์​

แล้วยังเคยหมดสติด้วยการชักในขณะร่วมแข่งวิ่งมาราธอน​ อันเป็นเป้าหมายสุดท้ายในลู่วิ่งที่เธอวางเอาไว้ว่าจะคัดตัวจนได้ไปร่วมแข่งที่โอลิมปิกเมื่อปี 1996

เธอจากไปพร้อมกับคำชื่นชม​ และ ความคิดถึง​

ส่วนในสายตาของคนช่างสงสัยก็จะยังคงเก็บงำคำกล่าวหาต่อไปมาจนถึงทุกวันนี้ ภายใต้ความเชื่อที่ว่ายุคนั้นการตรวจหาสารกระตุ้น​ยังไม่มีความก้าวหน้าเฉกเช่น​ยุคนี้ ทั้งที่บิ๊กเบนคือเหยื่อที่ไม่รอดพ้นการตรวจจากห้องแล็บ​เดียวกัน

แจ็คกี จอยเนอร์  คือคนในครอบครัว​ที่ยืนเคียงข้างเธอตลอดมา และ ตอบโต้ทุกคำกล่าวหาว่ามาจากพวกไร้เกียรติจนขาดความเคารพเพื่อนของตน

เธอยังรับดูแลลูกสาวคนเดียวของเพื่อนรักที่มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ แล้วได้เลี้ยงดูประดุจลูกแท้ๆ ของเธอเอง เธอรับปากกับร่างอันไร้วิญญาณ​ของโฟลโจว่าพวกเราจะดูแล แมรี แก้วตาดวงใจวัย 6 ปี ให้ดีที่สุดด้วยชีวิตของพวกเราทุกคน

ร่างของโฟลโจลาลับพวกเราไปแล้ว แต่อีกหนึ่งวัฒนธรรม​ป็อบที่เธอสร้างขึ้นมาไม่เคยจางหายไปไหน

ทุกวันนี้วงการกีฬา​ยังเดินหน้าสานต่อความเป็นไอคอนของเธอ ด้วยการผนวกวงการกีฬา​ให้เป็นหนึ่งเดียวกับแคทวอล์ค​ผ่านทุกสีสันของเธอที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุค 80s

ขีดจำกัดในลู่วิ่งของโฟลโจยังคงเป็นหนึ่งจนยังไม่มีใครไปถึง

แต่ข้อจำกัดอันแสนจะจืดชืดแห่งความเป็นนักกีฬา ​ที่ถูกเธอดีไซน์จนกลายเป็นผู้ที่เปิดให้โลกได้รู้ว่านักกีฬา​สามารถสร้างสรรค์​ผลงานบนแคทวอล์ค​ได้ ก็ยังคงไม่หยุดวิ่งเช่นเดียวกับความคิดถึงที่หลายคนยังมีให้เธอ

ขีดจำกัด กับ ข้อจำกัด ไม่เคยมีอยู่จริงตราบใดที่เราไม่เคยหยุดหวัง

แต่คนที่หยุดนิ่งไม่ไหวติงกับทุกสิ่งสิมีอยู่จริงแท้ๆ และ แน่นอน

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares