โอลิมปิกกำลังจะเปิดฉากในอีก 2 วัน ขณะที่กรุง “โตเกียว” และประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญหน้ากับการระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกระลอก จนต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และห้ามมีคนดูเข้าชมเกมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ นักกีฬากว่า 11,238 คน ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการเอาตัวรอดจากโควิด-19 ตลอดทั้ง 17 วันของการแข่งขัน ซึ่งขณะนี้มีรายงานนักกีฬาติดเชื้อแล้ว และมีเคสโควิด-19 ที่เกี่ยวกับกับโอลิมปิกไม่เว้นแต่ละวัน แต่มาถึงตรงนี้ ยังไงการแข่งขันก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป The Show must go on
ความพยายามของญี่ปุ่นและโอลิมปิกที่จะให้การแข่งขันเดินหน้าต่อนั้น เริ่มต้นตั้งแต่สนามบิน เมื่อนักกีฬาเดินทางมาถึงแดนอาทิตย์อุทัย พวกเขาต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจเชื้อและผ่านขั้นตอนต่างๆ มากมาย ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลายาวนานหลายชั่วโมง นอกจากนี้ทางการญี่ปุ่นยังประสานงานกับสายการบินต่างๆ ให้ระงับการจองตั๋วบินเข้าประเทศ ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารที่ไม่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิกเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นน้อยมาก ในขณะเดียวกันทางกรุง “โตเกียว” มีการออกกำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆ มามากมาย ทั้งการปิดบาร์ สถานที่กินดื่มยามค่ำคืน กำหนดเวลาเปิดปิดร้านอาหารให้สั้นลง และให้ชาวญี่ปุ่นอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกมาข้างนอก
จากรายงานของ GlobalData ประมาณการณ์ว่า การที่ไม่มีคนดูในสนามแข่งขันจะทำให้โอลิมปิกที่กรุงโตเกียวสูญเงินไปราวๆ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ยังไม่รวมในภาคธุรกิจส่วนอื่นๆ ที่หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมการแข่งขัน แต่นั่นไม่เกิดขึ้นแล้ว ว่ากันว่ากว่าครึ่งของชาวญี่ปุ่นที่อาศัยในกรุงโตเกียวเชื่อว่าควรยกเลิกการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เมื่อดูจากผลสำรวจของทั้งประเทศกว่า 78% เชื่อว่าไม่ควรจัดการแข่งขันต่อ ในส่วนของนักกีฬานั้นทุกคนจะต้องใช้ชีวิตในแบบบับเบิ้ล รักษาระยะห่าง ทานอาหารในห้องพัก และอื่นๆ อีกมากมาย ทัพนักกีฬาของแต่ละชาติถูกแยกพักแบบเป็นสัดส่วน โซนใครโซนมัน ไม่ปะปนกัน จำกัดบริเวณ และสถานที่ฝึกซ้อม ซึ่งเป็นหนึ่งเหตุผลสำคัญที่บรรดานักกีฬาอาชีพชื่อดังหลายคนยอมไม่มาลงชิงชัยเพื่อเหรียญทอง
เดิมทีโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวครั้งนี้ถูกวางเอาไว้ว่าน่าจะเป็นหนึ่งในการแข่งขันที่ดีที่สุดของมหกรรมกีฬาห้าห่วง เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆ ปีที่ไม่มีข่าวเรื่องการทุจริตและค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจริง ญี่ปุ่นตัดสินใจสร้างสนามแข่งขันหรืองานก่อสร้างใหญ่ๆ ให้น้อยที่สุด ถ้าต้องทำก็จะเป็นสถานที่ชั่วคราว และสามารถเปลี่ยนมาใช้ประโยชน์ได้หลังจากโอลิมปิกจบลง ทุกอย่างดูจะราบรื่นเอามากๆ จนคณะกรรมการโอลิมปิกสากลถึงกับเอ่ยปากชมว่า “โตเกียวเป็นเมืองที่เตรียมการจัดแข่งขันโอลิมปิกดีที่สุดในประวัติศาสตร์”
โดยในอดีตญี่ปุ่นเคยเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกมาแล้วในปี 1964 หลังฟื้นตัวจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เปิดประเทศให้ชาวโลกรู้จักแดนอาทิตย์อุทัยในฐานะประเทศที่ทันสมัยและเป็นมิตร ซึ่งโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว 2020 จะเป็นการฉายสปอร์ตไลต์มายังพวกเขาอีกครั้ง แต่แล้วโควิด-19 ก็เข้ามาทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงใป ความคิดที่จะจัดงานด้วยความตั้งใจดีและเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศกลับกลายเป็นภาระ
ญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวโตเกียวตกอยู่ภายใต้ความกดดันที่จะทำให้โอลิมปิกครั้งนี้ประสบความสำเร็จ หลังจากที่ต้องเลื่อนการแข่งขันมาจากปี 2020 ทุกอย่างทำท่าว่าจะดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดน้อยลง แต่แล้วก่อนหน้าการแข่งขันจะเริ่มต้น เคสโควิด-19 ในกรุงโตเกียวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการระบาดของสายพันธุ์เดลต้า ซึ่งกำลังเล่นงานหลายประเทศ จนนำมาสู่มาตรการต่างๆ มีการคาดกันว่าในช่วงการแข่งขันอาจจะมีเคสติดเชื้อโควิด-19 ในโตเกียวสูงถึงวันละ 2,000-3,000 คน นักกีฬาจากต่างประเทศต้องปรับตัว เช่น Team GB หรือทัพนักกีฬาจากสหราชอาณาจักรกว่า 375 คน เข้าพักอาศัยในอาคาร 12 ชั้นภายในหมู่บ้านนักกีฬา พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พวกเขาขนข้ามน้ำข้ามทะเลไปเต็มตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อทำให้การอยู่ในบับเบิ้ลเป็นเหมือนการอยู่บ้าน
ไม่นานหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง และการระบาดของไข้หวัดสเปนที่คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปกว่า 50 ล้านคน กีฬาโอลิมปิก ปี 1920 จัดขึ้นที่แอนต์เวิร์ป เมืองท่าสำคัญของเบลเยียม กลายเป็นแสงสว่างของการกลับมาและความหวัง เกือบๆ 3 ทศวรรษต่อมา โอลิมปิก ปี 1948 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จัดขึ้นท่ามกลางซากปรักหักพังของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเพิ่งจบลง และอาหารยังเป็นของที่ต้องปันส่วนเพราะผลกระทบจากมหาสงคราม
โยชิโนริ ซากาอิ จุดไฟในกระถางคบเพลิงโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1964 นักวิ่งวัย 19 ปี ลืมตาดูโลกที่หมู่บ้านชานเมืองฮิโรชิมา 2 ชั่วโมงหลังจากที่สหรัฐทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ คร่าชีวิตชาวเมืองไปกว่า 80,000 คน ภาพที่ซากาอิจุดกระถางคบเพลิงเป็นเหมือนสัญลักษณ์การเกิดใหม่ของญี่ปุ่นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2
บริบทของโอลิมปิกแต่ละครั้งยิ่งตอกย้ำความสำคัญของกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ คำถามที่ว่าทำไมถึงเดินหน้าจัดต่อท่ามกลางโรคระบาดที่ยังไม่คลี่คลาย คนกว่า 191 ล้านคนติดเชื้อ และเกิน 4 ล้านคนเสียชีวิต ในยามที่โลกต้องการฮีโร่ โอลิมปิกกำลังทำหน้าที่รวมใจคนให้เป็นหนึ่ง สร้างฮีโร่ที่คนทั้งชาติเอาใจช่วย และเตรียมใจเปิดรับโลกใบใหม่ที่มีความหวังเสมอ
โอลิมปิกพร้อมแล้ว คุณล่ะ พร้อมหรือยัง
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม
