คณะรัฐมนตรีเห็นชอบประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 32 ชาติจากทั่วโลกร่วมชิงชัยใน 4 ภาค วันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กันยายน ปีหน้า
เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 3 ธันวาคม ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกในปี 2568 ตามที่กระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ซึ่งเป็นไปตามที่สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ( FIVB ) ได้ให้เกียรติประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ โดยได้พิจารณาเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพความพร้อมทุกด้านทั้งสนามแข่งขัน ที่พัก บุคลากร ตลอดจนการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยมีแฟนคลับวอลเลย์บอลจำนวนมาก ชมและเชียร์อย่างสุภาพให้เกียรตินักกีฬาทุกประเทศ ประกอบกับประเทศไทยมีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันระดับนานาชาติมาหลายรายการ ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างดียิ่งมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสำเร็จจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก ( VNL) รอบชิงชนะเลิศเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
สำหรับการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ( FIVB Women’s World Championship 2025 ) กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กันยายน 2568 โดยมีทีมวอลเลย์บอลหญิงจากประเทศต่าง ๆ ทุกทวีปทั่วโลกมาร่วมแข่งขัน จำนวน 32 ชาติ ได้แก่ ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ เซอร์เบีย ในฐานะแชมป์เก่า ตัวแทนจากทวีปต่าง ๆ จำนวน 15 ทีมได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น จีน เวียดนาม ตุรเคีย เนเธอแลนด์ อิตาลี สหรัฐอเมริกา แคนาดา โดมินิกัน บราซิล อาร์เจนตินา โคลอมเบีย อียิปต์ แคเมอรูน และเคนยา นอกจากนี้ ยังมีทีมที่มีคะแนนสะสมตามอันดับโลกที่ยังไม่ผ่านเข้ารอบ อีกจำนวน 15 ทีม ได้แก่ โปร์แลนด์ เยอรมันนี เบลเยี่ยม เช็ก เปอร์โตริโก ยูเครนตะวันตก ฝรั่งเศส บัลแกเรีย คิวบา สวีเดน เม็กซิโก สโลวีเนีย สโลวัก สเปน และเฮลเลนิด โดยจะแบ่งเป็น 8 สาย สายละ 4 ทีม และจะมีการจับฉลากแบ่งสาย ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ เวลา 15.00 น. ที่ ห้อง Pavilion Convention Hall โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น ถนนศรีนครินทร์ โดยจะได้กราบเรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน
สำหรับสนามที่จะใช้ในการแข่งขันรอบแรกจะกระจายไปจัดตามหัวเมืองหลักด้านการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 4 เมือง ได้แก่ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา และกรุงเทพมหานคร โดยแต่ละเมืองจะมีทีมวอลเลย์บอล จำนวน 2 สาย 8 ทีม ส่วนจะมีทีมใดจะอยู่ สายไหนบ้างจะทราบหลังจากมีการจับฉลากแบ่งสายเรียบร้อยแล้ว ส่วนการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รอบก่อนรองชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะจัดที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก เป็นการสนองตอบต่อนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ในเรื่องการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก ซึ่งทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยถือว่าเป็นกีฬาประเภททีมที่เป็นที่นิยมของคนไทยและทั่วโลก การจัดการแข่งขันครั้งนี้นอกจากจะเป็นการให้โอกาสกับคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มที่สนใจกีฬาวอลเลย์บอลได้ชมฝีมือของนักกีฬาระดับโลกแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยสู่สายตาชาวโลกผ่านการถ่ายทอดสดการแข่งขัน ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนนานาชาติ รวมทั้งประเทศไทยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาชมการแข่งขัน มูลค่าด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียไปทั่วโลก ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ชมโดยรวมประมาณ 1.3 พันล้านคน และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจภายในประเทศ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดประมาณ 8.5 พันล้านบาท ในขณะที่เราประมาณการค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขันครั้งนี้ไว้จำนวน 1.1 พันล้านบาท โดยแบ่งเป็นค่าลิขสิทธ์ของวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลกไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นงบส่วนกลางเพื่อจัดการแข่งขัน ซึ่งมองกว่าผลที่ได้รับของประเทศชาติคุ้มค่าแน่นอน ทั้งภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย รวมทั้งยังเป็นการแสดงความเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและกีฬาด้วย
นอกจากนี้ในการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เน้นให้มีการรณรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ( Green Heart Event ) โดยเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เป็นสมาคมกีฬา นำร่องต้นแบบด้วย
ส่วนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก ( VNL ) ในปี 2568 สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ และ Volleyball World ขอให้งดจัดการแข่งขันไปก่อน เพราะต้องรับผิดชอบการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลกที่มีความสำคัญมากกว่า ซึ่งจัดในเวลาที่ใกล้เคียงกัน เกรงจะไม่มีเวลาในการเตรียมงานสำคัญให้ดีที่สุดได้ และยืนยันว่า ในปี 2569 จะให้ประเทศได้กลับมาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นลีก ( VNL ) อีกครั้ง
ทั้งนี้ในการแถลงข่าว มี นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้แทนผู้ฝึกสอน ได้แก่ “โค้ชอ๊อด” นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร และนักกีฬาชุด 7 เซียนนำโดย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, วรรณา บัวแก้ว, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, มลิกา กันทอง และ อรอุมา สิทธิรักษ์ ซึ่งเคยเข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกมาก่อน และกลุ่มแฟนคลับวอลเลย์บอล มาร่วมงานแถลงข่าวเพื่อขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ด้วย
นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอบคุณทางรัฐบาลที่สนับสนุนการจัดแข่งขันรายการนี้ โดยเชื่อมันว่าจะจัดการแข่งขันได้อย่างดี จากประสบการณ์จัดการแข่งขันระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย ซึ่งเชื่อว่าผลจากการแข่งขันจากศึกระดับชิงแชมป์โลก จะได้ผลตอบแทนที่ดีทั้งจากภาคเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ที่ดีของไทย จากการถ่ายทอดสดไปทั่วโลก เชื่อได้ว่าคุ้มค่าแน่นอน
ขณะที่ “โค้ชอ๊อด” นายเกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ที่จะกลับมาคุมทีมนักตบสาวไทย กล่าวว่า ขณะนี้นักตบสาวไทยอยู่ในช่วงการแข่งขันให้กับสโมสรทั้งลีกในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะพยายามให้นักตบกลับมาซ้อมร่วมกันก่อนศึกวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก และชิงแชมป์โลก ซึ่งชุดนี้อาจต้องใช้นักกีฬาเยอะพอสมควร ซึ่งจะเรียกตัวจากชุดอายุไม่เกิน 19 ปี และชุดอายุไม่เกิน 21 ปี มามากขึ้น ส่วนทีมชาติชุดก่อนหรือชุด 7 เซียนหากมีศักยภาพอยู่ก็พร้อมให้กลับมาเล่นทีมชาติได้ แต่ก็ต้องดูว่าจะเล่นทัวร์นาเมนต์ไหนได้บ้าง