ทันทีที่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยออกมาขีดเส้นใต้ ว่าทีมชาติไทยจะต้องได้เหรียญทองฟุตบอลซีเกมส์ แล้วถ้าพลาดก็จะต้องมีคนรับผิดชอบเป็นครั้งที่สองเท่านั้น
สื่อหลัก สื่อรอง และ ชาวเน็ต ก็วิพากษ์วิจารณ์ด้วยความไม่สบายใจว่าคำขู่นี้อาจเป็นเหตุทางการเมือง ที่อาจจะนำมาถึงการเข้ามาสอบสวนของ ฟีฟ่า ในฐานะองค์กรสูงสุดในวงการฟุตบอล
ฟีฟ่า ย้ำมาตลอดว่าวงการฟุตบอลจะต้องปราศจากการเมืองมาครอบงำ สมาคม หรือ สหพันธ์ฟุตบอลของทุกประเทศคือองค์กรอิสระที่หัวเรือใหญ่ต้องมา และ ต้องไปด้วยการเลือกตั้ง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬา หรือ องค์กรอิสระใดๆ ไม่สามารถเข้ามามีอำนาจเหนือองค์กรฟุตบอลของแต่ละประเทศได้
ดังนั้นหากคำขู่ของบิ๊กโอลิมปิกไทยกลายเป็นเรื่องจริง นั่นก็คือมีการพยายามให้ พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลาออกจากนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยแล้วทาง ฟีฟ่า ตรวจสอบจนพบว่ามาจากอำนาจทางการเมือง หรือ ทางคนถูกปลดไปร้องเรียนว่าได้รับความไม่เป็นธรรม
เมื่อนั้นดาบอันศักดิ์สิทธิ์ และ คมกริบจากฟีฟ่า จะจัดการเชือดวงการฟุตบอลบ้านเราในระดับนานาชาติทันที
แต่ในตอนนี้ คำข่มขู่ของประธานโอลิมปิกก็คือคำพูดที่ยังไม่เกิดขึ้น ถือเป็นคำอนนำในลักษณะออกความเห็นโดยสุจริต ซึ่งโดยอำนาจตามสายงาน และ กฎระเบียบของสมาคมฟุตบอล ย่อมไม่สามารถมีใครมาปลดนายกสมาคมได้อยู่แล้ว ต่อให้คนขู่จะใหญ่มาจากไหนก็ตาม
นอกเสียจากว่าจะเกิดเหตุการณ์การทุพพลภาพ, เสียชีวิต, ทุจริตแบบจะจะ หรือ มีรายการข้าพเจ้าขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียวเพราะผมอับอายจนเกินต้านทานตัวเองไหว ผมขอลาออกเองด้วยความเต็มใจครับ
เมื่อนั้นแหล่ะที่เก้าอี้องค์กรกีฬาสุดฮิตที่ขากำลังสั่นจะได้มีการเปลี่ยนแปลงคนนั่ง
แม้ว่าโดยลึกๆ หลายคนจะมีความหวังเมื่อดูจากสายคอนเนคชันแล้ว นายกสมาคมฟุตบอลคงมีความเกรงใจประธานโอลิมปิกยศพลเอกอย่างแน่นอน
แต่ก็หวังว่าถ้าจะมีรายการพี่ขอนะจริง ก็ขอให้เกิดขึ้นแบบไม่มีใบเสร็จ เพื่อที่จะได้ไม่มีการนำใบเสร็จไปให้ฟีฟ่ามาลงโทษแบนย้อนหลังจนวงการฟุตบอลไทยเสียหายไปหลายปี
แต่ถ้าฟุตบอลไทยได้เหรียญทอง ฝ่ายค้านทั้งในสมาคม และ นอกสมาคมก็ต้องไปดีลกับตัวแทนจากสโมสรที่มีอำนาจเลือกนายกสมาคม ซึ่งน่าจะเปฌนหนทางที่ดูเป็นไปได้เมื่อดูว่านายกคนปัจจุบันมาได้เพราะอะไร
เมื่อเวลาเปลี่ยน ใจคนก็มักเปลี่ยนเช่นกัน
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม