ค่ำคืนหนึ่งที่บ้านหรูบนเนื้อที่กว้าง ณ ย่านทองหล่อของเมืองแมนเชสเตอร์ เหตุการณ์เกิดขึ้นภายหลังจบเกมที่ชนะซันเดอร์แลนด์ 1-0 อันเป็นชัยชนะเกมที่ 2 จาก 5 เกมแรกของฤดูกาล 2007/2008 แมคเคนซี่ส์ เอสคอร์ด เอเจนซี่ เอเยนต์เบอร์หนึ่งเรื่องการส่งออกสาวไปตามบ้านของลูกค้าระดับ VVIP ได้รับออเดอร์ว่าต้องการผู้หญิง 5 คน สำหรับงานปาร์ตี้ส่วนตัว
รถลีมูซีนพาพวกนางทั้ง 5 จากเมืองลีดส์เพื่อไปส่งตามสถานที่นัดหมาย ทุกคนในรถคันนั้นไม่มีใครรู้ว่าที่ปลายทางแห่งนั้นอยู่ที่ใด หรือลูกค้าที่เรียกพวกนางมาใช้บริการคือใคร ทุกนางในรถคันนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย ตื่นเต้น และ หัวเราะกันอิอิอิ ด้วยความอยากรู้ว่าลูกค้าระดับ VVIP ผู้ลึกลับกลุ่มนี้เป็นใคร
ที่ล็อบบี้ขนาดใหญ่กลางบ้าน ทั้งห้าสาวถูกพาเข้าไปในห้องนั่งเล่น ในทันทีที่ได้เห็นว่ามีใครกันบ้างที่อยู่ในงานปาร์ตี้คืนนั้น พวกนางได้รู้ในทันทีว่า สิ่งที่คิดมาตลอดการเดินทางนั้นผิดหมดเลย
เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ใช่ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงฟุตบอลของวากานด้า หรือ เป็นนักการเมืองที่ชอบหนีภรรยามาเที่ยวอย่างที่สงสัยกัน แต่เป็นนักฟุตบอลคนดังที่มีความน่ากินมากที่สุดในเมืองแมนเชสเตอร์ ที่มาพร้อมกับเพื่อนๆ ของเค้าที่อย่าง นานี่ ในวัย 20 ขวบ กะ แอนเดอร์สัน ในวัย 19 ขวบ
ทุกคนแต่งตัวกันชิลๆ ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ และ กำลังฟังเพลงแนว R&B ไม่มีใครใส่รองเท้าแตะ และมีบางคนสวมใส่รองเท้ากีฬา ส่วนเจ้าของบ้านวัย 22 ขวบ ที่ดูแตกต่างด้วยการสวมต่างหูเพชร สร้อยทองเส้นใหญ่ และใส่นาฬิกาหรู เขามีชื่อตามทะเบียนราษฎร์ว่า คริสติอาโน โรนัลโด ที่ถูกยกให้เป็นเฮียคนโตของบ้าน เค้ามีหน้าที่ดูแลรุ่นน้องสองคนที่เพิ่งย้ายมาใหม่ๆ แล้วยังไม่ค่อยสนิทกะใครในทีม
ด้วยความที่ทั้งสามคนมีวัยใกล้กัน พูดจาภาษาเดียวกัน และอยู่ในวัยโสด กิจกรรมรับน้องเพื่อกระชับความสัมพันธ์จึงถูกจัดขึ้นภายใต้ธีม “เราสามเกลอกับพวกเธอทั้งห้า และ ปาร์ตี้ริมสระ”
⚽️⚽️⚽️
หนึ่งในสาวกลุ่มนั้นมีชื่อสมมติว่า จูเลียนา บราซิลเลียนเกิร์ล ที่จะเป็นผู้บรรยายหลัก ณ ปาร์ตี้แห่งนั้น
นางจำโรนัลโดได้ตั้งแต่แรกเห็น เพราะนางคลั่งฮีมาตั้งแต่ฟุตบอลโลกปี 2006 แล้วก็ด้วยความที่เห็นว่าโรนัลโดเป็นทั้งคนเก่ง และ หล่อเฟร่อเบอร์ห้า นางจึงมีเค้าเป็นชายในฝันที่เพ้อถึงมาตลอด
ด้วยไม่มีใครรู้ว่าหนึ่งในห้านางนั้น มีนางคนเดียวพูดจาภาษาเดียวกับหนุ่มๆ เพราะบราซิลเป็นชาติเดียวในทวีปอเมริกาใต้ที่ใช้ภาษาโปรตุกีสเป็นภาษาราชการ นางจึงเข้าใจที่โรนัลโดพูดทะลึ่งตึงตังเกี่ยวกับนาง แอนด์ชะนีในแกงค์กับเพื่อนๆ อย่างไร้ซึ่งความเกรงใจ
จากนั้นพวกนางก็ถูกพาเข้าไปทำหน้าที่ชงเครื่องดื่ม และ เริ่มรายการดื่มเป็นการเอ็นเตอร์เทนในทันที นั่นก็คือการจดจ่อรอคอยให้เวลาของปาร์ตี้ดีๆ ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้านี้
ตัวแทนคนนึงของเจ้าของบ้านเน้นกับสาวๆ ว่า ขอให้ทุกคนปิดเรื่องนี้ไว้ และทิ้งเรื่องทุกอย่างไว้หลังปาร์ตี้จบ ห้ามนำเรื่องราวพวกนี้ออกสู่ภายนอกโดยเด็ดขาด จากนั้นสามนักเตะคนดังก็พูดขึ้นแทบจะพร้อมกันว่า ถ้าบอสของเรารู้เรื่องนี้ละก็ หลังคาบ้านนี้ก็หยุดให้เค้าเข้ามาสั่งชัตดาวน์ปาร์ตี้นี้ไม่ได้
เมื่อเมาได้ที่ อารมณ์กระเจิงกันยกบ้าน โรนัลโดต้องออกมาปรามทุกคนว่าให้เบาเสียงลง รวมทั้งจัดการลดวอลุ่มของเครื่องเสียงด้วย เพราะกลัวจะไปรบกวนเพื่อนบ้านโดยรอบจนเกิดการแจ้งความขึ้นมา และเรื่องทั้งหมดในคืนนี้มันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไปถ้าหากมีเจ้าหน้าที่มาตรวจเจอ
จนเวลาล่วงถึงตี 4 เมื่อสิ้นสุดเวลาตามดีลนั้น เธอทั้งห้าโบกแท็กซี่กลับไป พร้อมจากลาปาร์ตี้ไปด้วยความอ่อนเพลีย
แต่สุดท้าย จูเลียนา ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ทุกซอก รู้เรื่องทุกคำที่ออกมาจากทุกคนในวันนั้น กลับไม่ใช่คนที่โรนัลโด แอนด์ เฟรนด์ ต้องจำไปจนวันตาย แต่ดันกลายเป็น ไทเซ คันนิงแฮม อีกหนึ่งในห้าสาวของ แมคเคนซีส์ เอสคอร์ต ได้ออกมาขายเรื่องปาร์ตี้ริมสระในคืนนั้นให้สื่อแห่งนึง จนทำให้ถูกไล่ออกงานไปเลย
เมื่อเรื่องถูกแฉออกไป เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เรียกทุกคนเข้ามาด่าแหลกตามสไตล์ และสั่งให้สโมสรลงโทษด้วยการหักเงิน และสั่งพักงานคนละ 1 เกม แบบไม่พร้อมกัน
มิสนึกไปถึงสองเคสดังที่เกิดเรื่องงามไส้ในลักษณะคล้่ายๆ กัน ลี ชาร์ป อดีตปีกคนดังของแมนยูไนเต็ด เคยออกมาเล่าว่าถูกคุณป๋าตามมาพังงานปาร์ตี้ส่วนตัวที่เค้าไม่ได้เป็นคนจัด
สมัยก่อน เซอร์อเล็กซ์ จะมีการจ้างนักสืบเอกชนให้คอยสอดส่องพฤติกรรมนักเตะหลายคน และ เมื่อเกิดความผิดปกติขึ้น ท่านจะเลือกจัดการตามความเหมาะสม
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า นโยบายแรกๆ ที่ท่านนำมาใช้ปฏิวัติวัฒนธรรมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่สองของการทำงาน นั่นก้อคือการออกกฎระเบียบจำกัดการดื่มให้เหลือสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และ จะต้องห่างจากวันที่มีการแข่งอย่างน้อย 2 คืน
เราจึงได้เห็น พอล แมคกรัธ และ นอร์แมน ไวท์ไซด์ นักเตะตัวหลัก 2 คน ต้องเดินหิ้วขวดออกจากทีมไปเพราะทำตามกฎไม่ได้ แต่สำหรับ ไบรอัน ร็อบสัน นั้นแตกต่างออกไป
คุณกัปตันมาร์เวลที่นอกจะคอแข็ง ฟื้นตัวง่าย และ ไม่แหกกฎบ่อย คุณป๋าจึงเลือกที่จะมองข้ามความผิดบางอย่างไป
นี่คือหลักสูตรบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ทุกคนชื่นชมว่าดีงามระดับวิทยานิพนธ์กันเลยทีเดียวเชียวเจ้าค่ะ
เพราะว่าเทคนิคการมองข้ามความผิดให้กับนักเตะที่อยู่ในระดับซุปตาร์ มีบารมีที่ทีมจะขาดไม่ได้ และ มีอิทธิพลในการสร้างบรรยากาศดีๆ ให้เพื่อนร่วมทีม คือสิ่งที่คุณป็าแกจะทดเอาไว้ในใจตลอดมาเพื่อดูแลลูกทีมประเภทนั้นของแกเป็นพิเศษ
เราจึงเคยได้เห็น ไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตนา, รอย คีน, โรนัลโด และ เวย์น รูนีย์ ได้รับสิทธิพิเศษเหนือคนอื่นอยู่เสมอ ภายใต้ข้อแม้ที่ว่าจะต้องไม่ทำให้ทีมเสียสปิริต และ ไม่ทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวเป็นพิษ
การที่ ลี ชาร์ป ตกเป็นแพะรับบาปจากปาร์ตี้คืนนั้น จนกลายเป็นเรื่องที่เกาะกินใจเค้าอย่ายาวนาน มันจึงไม่ใช่แค่เรื่องนักเตะแอบเหลวไหลจนเกินลิมิต หรือไม่ใช่เรื่องที่ว่า ไรอัน กิกส์ เป็นคนชวน
แต่ด้วยความที่ ลี ชาร์ป คือนักเตะที่มีสีสันของชีวิตนอกสนามมากกว่าใคร จนเด็กๆ ในคลาส ออฟ 92 มองเป็นไอคอนนอกสนาม นั่นจึงเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับพวกนักเตะละอ่อนร้อยที่ยังอ่อนต่อโลกนั่นเอง
⚽️⚽️⚽️
หรืออย่างเคสของ โรนัลดินโญ่ และ เดโก้ สองนักเตะแกนนำคนสำคัญของบาร์เซโลน่า ที่ถูก เป๊บ กวาร์ดิโอลา จัดการขายทิ้งแบบงงกันไปทั้งวงการ
ก็เพราะพฤติกรรมชอบมีกลิ่นละมุด มังคุด ลำไยติดตัวมาสนามซ้อม จนทำให้บอสเป๊บมองว่าทัศนคติดาวดังแบบนี้จะเป็นอันตรายต่อนักเตะดาวรุ่ง โดยเฉพาะ ลีโอเนล เมสซี ที่เป็นเหมือนน้องน้อยของพี่ชายสองคนนั้น
การตัดเนื้อร้ายเพื่อรักษาเนื้อดีจึงเกิดขึ้น ในปัจจุบันนี้ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามแล้วว่าการขายซุปตาร์เบอร์หนึ่งของโลกทิ้งแบบไม่แคร์โลกในวันนั้น มันคือวิชั่นที่ดีงามขนาดไหนของซูเปอร์โค้ชคนนี้ อีกทั้งมันยังสะท้อนความเด็ดขาด ไม่แม้แต่จะคิดลังเลใจที่จะให้บทเรียนแก่พวกคนดังที่ไม่สำเหนียกความสำคัญของการเป็นตัวอย่างที่ดีให้นักเตะรุ่นหลัง และสังคม
เค้าถึงได้มีคำว่า นอกจากจะมีพระเดชแล้ว พระคุณก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในการบริหารคนเพราะนอกจากบุญญาบารมีธิการที่ต้องมีครบแล้ว การทำตัวเป็นทั้งพ่อพระ พ่อกำนัน พ่อทูนหัว หรือ พ่อเพชรฆาต คือเคล็ดลับที่ดีของผู้จัดทีมระดับพรีเมียมทุกคนต้องพกไว้เจ้าค่ะ
อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊ค, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม