Link Copied!

เซาท์เกต : เยอรมนี และจุดโทษในยูโร 96

“ตอนที่เดินไปเตะจุดโทษ มันเหมือนใช้เวลายาวนานมาก มันทำให้ผมตะลึงว่าตอนกลางคืนมันดำมืดแค่ไหน” แกเร็ธ เซาท์เกต พูดถึงลูกจุดโทษในฟุตบอลยูโร ปี 1996 ระหว่างอังกฤษกับเยอรมนี ซึ่งตัวเขาเองดับฝันแฟนบอลสิงโตคำรามทั้งชาติ ด้วยการพลาดจุดโทษ ส่งอินทรีเหล็กเข้าชิงชนะเลิศ และเป็นแชมป์ในที่สุด วันที่ 29 มิถุนายน 2021 เซาท์เก็ตมีโอกาสที่จะเขียนประวัติศาสตร์ของตัวเองขึ้นใหม่ เมื่อเขาจะคุมทีมชาติอังกฤษลงสนามเจอเยอรมนีในฟุตบอลยูโร 2020 ที่เวมบลีย์ 

ก่อนที่ความบาดหมางระหว่างอังกฤษกับเยอรมนีจะถึงจุดแตกหักเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มต้นขึ้นในปี 1939 ย้อนไปก่อนหน้านั้น 1 ปี ท่ามกลางแฟนบอลกว่า 110,000 คน ในสนามโอลิมปิก สเตเดี้ยม ที่กรุงเบอร์ลิน ทีมชาติอังกฤษยืนเคารพเพลงชาติเยอรมนีในท่าแสดงความเคารพของนาซี (Nazi Salute) ตามคำสั่งของรัฐบาลอังกฤษ การกระทำดังกล่าวทำให้ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ นำมาใช้เป็นเครื่องมือในการโฆษณาชวนเชื่อ และบอกให้โลกรู้ว่า ชาติมหาอำนาจในตอนนั้นยอมรับสถานะของตัวเอง ใครจะรู้ว่าในเดือนกันยายน 1939 เยอรมนีจะพาโลกเข้าสู่สงคราม ภาพทีมชาติอังกฤษตั้งแถวในท่ายกมือขวาขึ้น 45 องศา กลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ดำมืดที่สุดในประวัติศาสตร์สิงโตคำราม

หลังสงครามสงบ เยอรมนีแบ่งเป็นสองฝั่ง ฟุตบอลกลับมาแข่งกันต่อ อังกฤษได้แชมป์โลกในปี1966 ด้วยชัยชนะเหนือเยอรมนีตะวันตกแบบโลกกังขา ในฟุตบอลโลก 7 ครั้งถัดมา สิงโตคำรามผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้แค่ 4 ครั้ง โดย 2 ครั้งในนั้นคือที่เม็กซิโก ปี 1970 และที่อิตาลี ปี 1990 พวกเขาตกรอบด้วยฝีมือของอินทรีเหล็ก ซึ่งยังเขี่ยอังกฤษตกรอบฟุตบอลยูโร 1972 อีกด้วย โดยระหว่างปี 1966-1996 ทีมชาติอังกฤษพบกับเยอรมนี ทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก รวม 13 ครั้ง พวกเขาแพ้ถึง 9 ครั้งและชนะได้แค่ 2 ครั้งเท่านั้น แกรี ลินิเกอร์ ตำนานกองหน้าฉายา “มิสเตอร์ไนซ์กาย” ของอังกฤษถึงกับบอกว่า “ฟุตบอลเป็นเกมง่ายๆ ผู้ชาย 22 คนวิ่งไล่ตามฟุตบอลตลอด 90 นาที และในตอนจบ เยอรมนีจะเป็นผู้ชนะ” 

30 ปีแห่งความเจ็บปวด ทีมชาติอังกฤษหมายมั่นปั้นมือว่า Football is coming home ในยูโรปี 1996 ที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพ เหมือนเทพเจ้าของฟุตบอลจะเล่นตลก รอบรองชนะเลิศ อังกฤษต้องพบกับเยอรมนี ในตอนนั้นสื่ออังกฤษนำเสนอข่าวแบบไม่มีลิมิต เรียกสกอตแลนด์ว่า จ็อค (Jock) เรียกสเปนว่า ดาโก (Dago) แน่นอนว่า พวกเขาเรียกเยอรมนีว่า นาซี

ในวันที่ทั้งสองชาติต้องลงสนาม หนังสือพิมพ์อย่าง The Daily Mirror ลงภาพของ สจ๊วร์ต เพียร์ซ และ พอล แกสคอยน์ สวมหมวกทหารในสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมพาดหัวว่า “ACHTUNG! SURRENDER สำหรับพวกเยอรมนี ฟุตบอลยูโร 96 จบลงแล้ว” นอกจากนี้ในเล่มยังเอาคำประกาศสงครามของ เนวิลล์ แชมเบอร์เลน นายกรัฐมนตรีอังกฤษที่นำชาติเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 มาล้ออีกด้วย เทอร์รี เวนาเบิลส์ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษในตอนนั้นถึงกับบอกว่า “มันไปเกินกว่าความเป็นอริในเกมฟุตบอลแล้ว และมันไม่ตลกเลย ทั้งทวีปยุโรปอิจฉาที่พวกเราสร้างบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม ดังนั้นอย่าทำร้ายมันเลย”

120 นาทีของการแข่งขันจบลง อังกฤษเสมอกับเยอรมนี 1-1 ประตู ต้องตัดสินกันด้วยการยิงจุดโทษ แฟนบอลทั้งเวมบลีย์เอามือกุมขมับ ภาพความหลังในฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลีกลับเข้ามาในหัว แต่ เท็ดดี เชอริงแฮม ศูนย์หน้าของสิงโตคำรามก็มั่นใจ “พวกเรามีคนที่ยิงลูกจุดโทษได้ดีหลายคนอยู่ในทีม พวกเรามองโลกในแง่บวก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 คนแรก” ซึ่งก็เป็นแบบนั้น 5 คนแรกของทั้งสองทีมยิงเข้าไปแบบไม่มีพลาด

“ใครจะอาสา” เสียงเวนาเบิลส์บอกถามก่อนที่จะวางตัวคนเตะจุดโทษ หลายคนไม่ตอบรับ แต่ แกเร็ธ เซาท์เกต ยกมือขึ้น พร้อมกับ พอล อินซ์ “ผมมองไปที่เซาท์ตี้ และเขาพูดว่า ฉันจะเป็นคนที่ 6 และนายเป็นคนที่ 7” ตามที่ตกลงเมื่อจุดโทษมาถึงคนที่ 6 เซาท์เกตเดินไปเตะบอล และเลือกที่จะยิงตรงตำแหน่งเดียวกับที่ สจ๊วร์ต เพียร์ซ ยิงที่ตูรินเมื่อ 6 ปีก่อน ทางด้านขวาของผู้รักษาประตู แต่เขายิงใกล้ตรงกลางประตูเกินไป ไม่มีทั้งพลังและความแม่นยำ “ตอนที่แกเร็ธพลาด มันรู้สึกว่า ความตายเป็นแบบนี้นี่เอง” เวนาเบิลส์เอ่ย “มันเป็นจุดตกต่ำในอาชีพของผม มันเป็นโอกาสที่ผมจะคว้าแชมป์ให้กับประเทศชาติต่อหน้าแฟนบอลของเรา” 

“ผมยิงลูกจุดโทษของผมอย่างสุดยอด แล้วก็นั่นแหละ แกเร็ธพลาด เขากลับได้โฆษณาพิซซ่า 30,000 ปอนด์ และกลายเป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้? “ พอล แกสคอยน์ เอ่ย ส่วนตัวเซาท์เกตเองบอกว่า “ผมคือคนที่จบความฝันของคนทั้งชาติ ความพ่ายแพ้ของอังกฤษเป็นเพราะผม ผู้คนมากอดไหล่ และบอกว่า โอเค แต่ผมรู้สึกว่า พวกเขามองผมและคิดว่า เขาทำให้เราแพ้ ผมรู้สึกว่าผมทำให้ทั้งชาติผิดหวัง” คืนนั้น เทอร์รี เวนาเบิลส์ ยกคำของ ฟรีดริช นีตซ์เช บอกกับเซาท์เกตว่า “อะไรที่ฆ่าคุณไม่ตายจะทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น”

แต่เซาท์เกตกลับคิดถึงอีกคำพูดหนึ่งของนักปรัชญาชาวเยอรมนี “มันมีอีกประโยคหนึ่งของนีตซ์เชที่น่าจะสะท้อนได้เหมาะสมกว่า ความคิดเรื่องการฆ่าตัวตายเป็นแก่นชั้นดีของความสงบ ด้วยความเงียบสงบทำให้ผ่านคืนที่เลวร้ายมากมายไปได้” ในเกมระหว่างอังกฤษกับเยอรมนี ในคืนวันที่ 29 มิถุนายน 2021 ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสนาม ผลการแข่งขันจะเป็นยังไง ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเดิมใส่เซาท์เกต หรือเขาจะได้ลบล้างความผิดหวังในอดีตได้สำเร็จ นั่นจะไม่ส่งผลต่อตัวตนของผู้จัดการทีมชาติอังกฤษอีกแล้ว 

“แน่นอนผมยังคงหวังว่า ผมยิงลูกจุดโทษลูกนั้นเข้าในฐานะนักฟุตบอลตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ผมไม่สามารถบอกได้ว่ามันจะทำให้ผมเป็นคนที่ดีขึ้น การพลาดลูกจุดโทษทำให้ผมแข็งแกร่งขึ้น และให้มุมมองเกี่ยวกับชีวิตที่ดีขึ้น เวลาผ่านไป ผมรู้ตัวแล้วว่า สิ่งเลวร้ายที่สุดซึ่งน่าจะเกิดขึ้นกับผมในโลกฟุตบอลนั้นได้ผ่านไปแล้ว ไม่มีอะไรจะเจ็บปวดเหมือนประสบการณ์นั้นอีกแล้ว และเมื่อรู้แบบนั้น มันกลายเป็นแรงผลักดัน มันทำให้ผมกล้าที่จะเข้าใจตัวเองมากขึ้น” เซาท์เกตเอ่ย 

อัพเดตเรื่องราวเกี่ยวกับกีฬา ติดตาม PlayNowThailand.com ที่เฟสบุ๊คทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม

Total
0
Shares